Omega ‘Master Chronometer’
ที่ผ่านมา เรือนเวลาหลายรุ่นของ Omega แบรนด์นาฬิกายอดนิยมของคนทั้งโลก ได้รับการการันตีความเที่ยงตรงอันเยี่ยมยอดด้วยเกียรติบัตรโครโนมิเตอร์ ซึ่งต้องผ่านบททดสอบอันจากสถาบันตรวจสอบเวลามาตรฐานของสวิส ‘Contrôle Officiel Suisse Des Chronomètres’ ที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อย่อ COSC แต่นั่นยังไม่ใช่ความยอดเยี่ยมที่ Omega ต้องการไปถึง ล่าสุดในปี 2015 ที่ผ่านมา Omega ได้ประกาศมาตรฐานความเที่ยงตรงของตนเองซึ่งเหนือกว่ามาตรฐานโครโนมิเตอร์ที่ใช้กันมายาวนาน โดยให้ชื่อว่า ‘Master Chronometer’
โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2014 จากความร่วมมือของ Omega และสถาบันมาตรวิทยาแห่งสมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ ‘METAS’ หรือ ‘The Swiss Federal Institute of Metrology’ โดย ‘METAS’ กำหนดการทดสอบมาตรฐานแบบใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม ด้วยการผนวกเอาการทดสอบความเที่ยงตรงภายใต้เงื่อนไขการใช้งานที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงยิ่งขึ้น ต่างจากแบบเดิมที่เป็นการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทั้งยังมีเงื่อนไขเพิ่มเติม คือกลไกจะต้องสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการรักษาความเที่ยงตรง โดยต้องผ่านการทดสอบที่ความเข้มข้นระดับ 15,000 เกาส์ อีกด้วย
‘METAS’ เป็นองค์กรของรัฐบาลจึงมีความน่าเชื่อถือ และก่อนที่จะส่งผลงานมาทดสอบกับ ‘METAS’ นั้น กลไกทุกชุดต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน COSC เสียก่อน โดยกระบวนการทดสอบของ ‘METAS’ จะเพิ่มขึ้นอีก 8 ขั้นตอน มีระยะเวลาการทดสอบนานกว่า 10 วัน โดยการตรวจสอบครอบคลุมด้านต่างๆ อาทิ
- ทดสอบการทำงานของกลไกที่ยังไม่ได้ประกอบลงในตัวเรือนภายใต้พลังสนามแม่เหล็ก 15,000 เกาส์
- ผ่านการตรวจสอบค่าเฉลี่ยการรักษาความเที่ยงตรงของกลไกทั้ง 6 ตำแหน่งการวาง อาทิ หงายด้านหน้าขึ้น คว่ำหน้าลง เม็ดมะยมตั้งขึ้น ตั้งด้าน 12 นาฬิกาขึ้น ฯลฯ
- ทดสอบการทำงานในช่วงที่กลไกมีพลังงานสำรองตั้งแต่ 0 จนถึง 2/3 ของจำนวนพลังงานสะสมทั้งหมด
- ทดสอบการทำงานของกลไกเพื่อหาค่าเฉลี่ยในแต่ละวัน หลังจากให้ทำงานหลังการผ่านสภาวะที่มีสนามแม่เหล็กรบกวน 15,000 เกาส์ อีกครั้ง
- หาอัตราความเที่ยงตรงในแต่ละวันภายใต้สถานการณ์จำลองให้เหมือนการสวมใส่ใช้งานจริง คือทั้ง 6 ตำแหน่งการวางตัวในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน 2 สถานการณ์
- ทดสอบประสิทธิภาพของระบบขึ้นลานอัตโนมัติ เพื่อเช็กพลังงานสำรองของกลไกว่าทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ โดยไม่มีการขึ้นลานเพิ่มเติม
- ทดสอบประสิทธิภาพของระบบการกันน้ำ ฯลฯ
กลไกชุดแรกของ Omega ที่ผ่านมาตรฐาน ‘Master Chronometer’ คือ Cal.8900/8901 Master Co-Axial ที่บรรจุอยู่ในคอลเลกชั่น Globemaster และด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ Omega จึงกล้ารับประคุณภาพของ Globemaster ทุกเรือนนานถึง 4 ปีเต็ม