HOME HEADER
HOME HEADER
Home Articles ALBA MONSTER THAILAND CREATION DEEP-SEA MONSTER INSPIRE - ดูโอปีศาจจากใต้ทะเลลึก

ALBA MONSTER THAILAND CREATION DEEP-SEA MONSTER INSPIRE – ดูโอปีศาจจากใต้ทะเลลึก

by: ‘Mr.Big’

 

หลังจากเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Alba (อัลบา) ได้เผยโฉมปีศาจตัวใหม่ที่สืบทอดเอกลักษณ์มาจากรุ่น ‘Monster’ (มอนสเตอร์) ของแบรนด์รุ่นพี่อย่าง Seiko (ไซโก) ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากบรรดาผู้รักนาฬิกาสไตล์สปอร์ต ด้วยรูปลักษณ์อันดุดันภายใต้รูปทรงที่แข็งแกร่ง ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย จากความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้ Alba สร้างสรรค์ปีศาจตัวใหม่ขึ้นมาเพื่อตอบสนองกระแสที่แรงไม่หยุดหย่อน ซึ่งครั้งนี้ได้นำรูปแบบอันแปลกประหลาดของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Monster Thailand Creation Deep-Sea Monster Inspired (มอนสเตอร์ ไทยแลนด์ ครีเอชั่น ดีพซี มอนสเตอร์ อินสไปร์ด)

MITSUBISHI

 

จากใต้ห้วงสมุทรที่มีความลึกมากกว่า 200 เมตรขึ้นไป อันเป็นดินแดนลึกลับที่แสงไม่สามารถส่องไปถึง เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำหน้าตาประหลาดที่เรายังไม่รู้จักอีกเป็นจำนวนมาก และ Alba ก็นำสิ่งมีชีวิตอันลึกลับนั้นมาเป็นไอเดียในการดีไซน์เรือนเวลารุ่นใหม่ที่นำเสนอออกมาพร้อมกันถึง 2 รูปแบบ โดยที่ยังคงคอนเซปต์หลัก ‘The Reflection of Japan’ (เดอะ รีเฟลกชั่น ออฟ เจแปน) อันสะท้อนสไตล์ความเป็นนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน ซึ่งสัตว์ประหลาดจากห้วงทะเลลึกที่ Alba นำมาเป็นสารตั้งต้นในการดีไซน์ครั้งนี้คือปลา ‘Deep-sea Dragonfish’ (ดีพซี ดรากอนฟิช) และ ‘Barreleye Fish’ (แบร์เรลอาย ฟิช)

Deep-sea Dragonfish’

Barreleye Fish
Pic credit : MBARI Monterey Bay Aquarium Research Institute

 

สำหรับ ‘Deep-sea Dragonfish’ ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์รุ่น ‘Black Monster’ (แบล็ก มอนสเตอร์) รหัส AL4419X ซึ่ง ‘Deep-sea Dragonfish’ ปลาทะเลน้ำลึกหน้าตาเหมือนปีศาจที่อาศัยอยู่ระดับความลึกตั้งแต่ 500-2,000 เมตร มีลำตัวสีดำสนิทที่สามาถเปล่งแสงสีแดงบริเวณใต้ดวงตาเพื่อใช้ในการล่อเหยื่อ ก่อนที่จะเขมือบเหยื่อเข้าไปทั้งคำ และยังพัฒนาขากรรไกรให้สามารถอ้าปากได้กว้างถึง 120 องศา จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิการุ่นนี้ โดยนำเสนอตัวเรือนขนาด 42.4 มิลลิเมตร ผลิตจากสเตนเลสสตีลที่ส่วนขอบตัวเรือนแบบหมุนทิศทางเดียวเคลือบเป็นสีดำด้วยเทคนิค IP หน้าปัดสีดำสนิทเหมือนกับสีลำตัว แต่แอบซ่อนจุดสีแดงเล็กๆ ไว้ที่หลักชั่วโมง ให้ดูเหมือนกับว่ากำลังล่อเหยื่ออยู่นั่นเอง ส่วนรายละเอียดต่างๆ ยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า นั่นคือใช้หลักชั่วโมงแบบกลมสลับแท่งสี่เหลี่ยมตามลักษณะของ ‘Sportive Design’ (สปอร์ตทีฟ ดีไซน์) ส่วนที่ 12 นาฬิกา ใช้หลักชั่วโมงทรงตราโล่ที่ดูคล้ายกับ ‘Mini Monster’ (มินิ มอนสเตอร์) แต่มีลักษณะเพรียวมากกว่า เข็มชั่วโมงดีไซน์มาในทรงเข็มฉีดยา ส่วนเข็มนาทีมาในทรงแท่งดินสอที่ดูเข้ากัน พร้อมเคลือบด้วยสารเรืองแสงเพื่อช่วยการอ่านค่าแม้ในภาวะแสงน้อย แสดงเวลาแบบ 3 เข็ม ร่วมกับการแสดงวันควบกับวันที่ผ่านช่องหน้าต่างยาวที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เพิ่มความชัดเจนด้วยเลนส์ขยายตลอดแนวช่องหน้าต่าง และกันน้ำได้ที่ระดับ 100 เมตร กรุกระจกหน้าปัดชนิด ‘Hardlex’ (ฮาร์ดเล็กซ์)

ส่วน ‘Barreleye Fish’ หรือ ‘ปลาหัวใส’ เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในความลึกประมาณ 400-800 เมตร ลักษณะเด่นคือส่วนหัวที่มีความใสจนสามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้อย่างชัดเจน และมีโดมสีเขียวด้านในส่วนหัวใสๆ ทำหน้าที่เป็นเลนส์ในการรับแสง เพื่อค้นหาเงาจางๆ ของเหยื่อในการออกล่าอาหาร ด้วยเอกลักษณ์พิเศษนี้จึงนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจของ ‘Green Monster’ (กรีน มอนสเตอร์) รหัส AL4421X โดยหยิบยกโดมสีเขียวของหัวปลามาเป็นสีของหน้าปัด พร้อมปัดลายรัศมี ล้อมไว้ด้วยขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่ปล่อยผิวเงินวาวโดยไม่ได้มีการเคลือบสีเพิ่มแต่อย่างใด ในขณะที่รายละเอียดดีไซน์ต่างๆ เหมือนกับรุ่นที่เอ่ยก่อนหน้าทุกประการ

ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งกลไกทำงานแบบอัตโนมัติ Cal.Y676 ที่มีจำนวนทับทิม 24 ชิ้น ทำงานด้วยความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง ให้พลังงานสำรอง 41 ชั่วโมง จับคู่มากับสายสเตนเลสสตีลพร้อมตัวล็อกแบบบานพับ ปลดล็อกด้วยปุ่มกดเพื่อการสวมใส่ที่ง่ายและสะดวก สำหรับราคาของรุ่น ‘Black Monster’ AL4419X ตั้งเอาไว้ที่ 5,800 บาท ส่วนรุ่น ‘Green Monster’ AL4421X อยู่ที่ 5,600 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

SEIKO MAY 23 CONTENT RGT