UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles AUDEMARS PIGUET ROYAL OAK SELFWINDING 34MM WHITE CERAMIC - เล็กไซส์ใคร่วัสดุ

AUDEMARS PIGUET ROYAL OAK SELFWINDING 34MM WHITE CERAMIC – เล็กไซส์ใคร่วัสดุ

by: ‘TomyTom’

 

เมื่อครั้งที่ Audemars Piguet (โอเดอมาร์ส ปิเกต์) เปิดตัวเจเนอเรชั่นปัจจุบันของนาฬิกาสปอร์ตหรูอมตะ Royal Oak (รอยัล โอ๊ก) แบบกลไกอัตโนมัติ บอกเวลา 3 เข็ม พร้อมฟังก์ชันวันที่อันเรียบง่ายในเรือนร่างขนาด 34.0 มิลลิเมตร ในปี 2020 นั้น อาจมองว่าดูจะเป็นการเอาใจคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบนาฬิกาจักรกล ผู้อาจไม่ค่อยเต็มใจโอบรับแบบเรือนขนาด 33.0 มิลลิเมตร เครื่องควอตซ์ที่มีอยู่ก่อนมาประดับข้อมือนักเสียมากกว่า ซึ่งก็ดูเหมือนเป็นเช่นว่า หากดูเฉพาะเวอร์ชั่นเปิดตัวที่มากับเรือนสเตนเลสสตีล เรือนทูโทนสองกษัตริย์ สเตนเลสสตีลร่วมกับทองชมพู 18K และเรือนทองชมพู 18K ทั้งในแบบขอบตัวเรือนเกลี้ยง และแบบขอบตัวเรือนประดับเพชร แต่ทันใดที่ทางแบรนด์เริ่มออกเวอร์ชั่นตัวเรือนและสายเซรามิกสีดำมาในปี 2021 ก็ไปเตะตาคุณผู้ชายเข้าด้วยอย่างจัง และมาถึงปี 2023 ก็สมทบกันอีกคราวด้วยเวอร์ชั่นตัวเรือนและสายเซรามิกสีขาวรุ่นนี้

MITSUBISHI

 

ความปรารถนาอย่างกว้างขวางในหมู่แฟนๆ AP ที่มีต่อเวอร์ชั่นตัวเรือนและสายเซรามิกของ Royal Oak Selfwinding 34mm (รอยัล โอ๊ก เซลฟ์ไวน์ดิง เธอร์ตีโฟร์ เอ็มเอ็ม) มีเหตุมาจากที่โดยปกติวิสัยแล้ว ตัวเรือนและสายเซรามิกจะถูกสงวนใว้ให้เฉพาะ Royal Oak รุ่นที่ใช้กลไกซึ่งมีความซับซ้อนสูง แต่แล้วจู่ๆ ในปี 2021 ทาง AP ก็ฝ่าระเบียบปฏิบัตินี้ด้วยการนำเสนอ Royal Oak 34mm ในวัสดุเซรามิกสีดำ อันถือเป็นครั้งแรกที่ถูกใช้กับ Royal Oak รุ่นกลไกพื้นฐานไม่ซับซ้อน จึงกลับกลายเป็นว่าขนาดตัวเรือน 34.0 มิลลิเมตร ที่ปัจจุบันถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างเล็กสำหรับผู้ชาย (ทั้งที่เมื่อก่อนเก่าก็ใส่กันได้อย่างไม่เคอะเขิน) จนถูกมองข้ามไป แต่แล้วก็คว้ามาคาดข้อมือกันอย่างภาคภูมิเสียอย่างนั้น และเมื่อทาง AP สร้างเซอร์ไพรส์ต่อด้วยเวอร์ชั่นตัวเรือนและสายเซรามิกสีขาวรุ่นนี้ ก็คาดว่าจะได้รับการต้อนรับมากยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งจากคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง นั่นก็เพราะเซรามิกสีขาวเป็นสีที่ทางแบรนด์สร้างขึ้นมาน้อยรุ่นมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนรุ่นที่ใช้เซรามิกสีดำ

 

Royal Oak Selfwinding 34mm White Ceramic (รอยัล โอ๊ก เซลฟ์ไวดิง เธอร์ตีโฟร์ เอ็มเอ็ม ไวท์ เซรามิก) รุ่นนี้ ขาวสะอาดตา แต่ประณีตด้วยผิวปัดลายสลับกับขัดเงาของตัวเรือนและสาย พร้อมเสริมสีสันงามหรูด้วยสกรูทองชมพู 18K บนขอบตัวเรือนและฝาหลัง ร่วมกับชิ้นหลักชั่วโมง เข็มชี้ทองชมพู 18K และอักษรชื่อแบรนด์ที่เป็นทองชมพูซึ่งเป็นงาน ‘Galvanic Growth’ (กัลวานิก โกรว์ธ) ที่ใช้มือบรรจงปิดแผ่นทองชมพู 24K ด้วยกระบวนการทางเคมีซึ่งให้ผลลัพธ์ทางรูปลักษณ์คล้ายการพิมพ์ 3 มิติ ทองชมพูเหล่านี้ตัดกับพื้นผิวหน้าปัดลายตาราง ‘Grande Tapisserie’ (กรองด์ ทาพิสเซอรีย์) ทำสีเงินยวงก่อประกายวาวอย่างน่าชม ขณะที่สเกลนาทีกับข้อความ ‘Swiss Made’ (สวิส เมด) พิมพ์ประทับด้วยสีดำอย่างเรียบง่ายแต่คมชัด และมอบความกลมกลืนด้วยเลขวันที่สีดำบนจานสีขาว ส่วนในแถบร่องของหลักชั่วโมงกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีก็เติมด้วยสารเรืองแสงสีขาว นอกจากนี้ยังใช้เม็ดมะยมเซรามิกสีขาวปัดลายชนิดขันเกลียวที่ผนึกด้วยแป้นทองชมพู และฝาหลังทองชมพู 18K กรุคริสตัลแซพไฟร์อีกด้วย ซึ่งอย่างหลังนี้ถือว่าพิเศษกว่าฝาหลังไทเทเนียมกรุคริสตัลแซพไฟร์ของเวอร์ชั่นเซรามิกดำ

 

กลไกที่ใช้เป็นแบบอัตโนมัติ บอกเวลา 3 เข็ม พร้อมบอกวันที่ด้วยจานดิสก์ ที่บางเพียงราว 3.9 มิลลิเมตร Cal.5800 ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง จำนวนทับทิม 28 เม็ด จำนวนชิ้นส่วนรวม 189 ชิ้น ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทอง 22K แบบทึบสลับเจาะโปร่ง พร้อมงานตกแต่งอย่างสวยงามด้วยแถบริ้วแบบเจนีวาบนสะพานจักร ร่วมกับงานขัดเงาที่แนวขอบ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่น ซึ่งต้องขยายความกันอีกนิดว่า คาลิเบรอนี้มิใช่เครื่อง ‘In-house’ (อินเฮาส์) ที่ AP สร้างเอง หากแต่เป็นงานผลิตจาก ‘Vaucher’ (โวแชร์) โรงงานผลิตกลไกชื่อดังแห่งถิ่นเฟลอริเยร์ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นำ Cal.VMF 3000 มาเป็นฐานในการสร้างเวอร์ชั่นเฉพาะให้กับ AP และด้วยขนาดกลไกอันแบบบางก็ส่งผลให้ตัวเรือนโดยรวมมีความหนาเพียงแค่ 8.8 มิลลิเมตร เท่านั้นเอง ส่วนการกันน้ำก็ยังคงกระทำได้ 50 เมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่เท่าเทียมกับเพื่อนร่วมขนาด 34.0 มิลลิเมตร

 

Royal Oak Selfwinding 34mm White Ceramic Ref.77350CB.OO.1266CB.01 รุ่นนี้ถูกกำหนดราคาไว้ที่ 52,400 ยูโร หรือราว 2 ล้านบาท โดย Audemars Piguet แจ้งว่าพร้อมจำหน่ายให้เป็นเจ้าของกันแล้วทั้งช่องทางบูติกและผู้แทนจำหน่าย

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT
Luxe Time Pop Up