by: ‘Mr.Big’
อย่างที่หลายคนทราบกันแล้วว่า ปี 2022 นี้เป็นปีที่มีความพิเศษเป็นอย่างยิ่งสำหรับ ‘Cortina Watch’ (คอร์ทินา วอทช์) หนึ่งในบูติกนาฬิกาชั้นนำของเอเซีย ที่เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1972 ด้วยการเปิดบูติกภายใน ‘Cortina Departmental Store’ (คอร์ทินา ดีพาร์ทเมนทัล สโตร์) ซึ่งอยู่ด้านหน้าของอาคารที่ทำการศาล ‘Colombo Court’ (โคลัมโบ คอร์ท) ถนนนอร์ธบริดจ์ ประเทศสิงคโปร์ ในรูปแบบธุรกิจครอบครัว ก่อนที่จะสร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำของโลกมากมาย จนสามารถยืนหนึ่งในความเป็นร้านนาฬิกาที่มีแบรนด์ชั้นนำของโลกอยู่ในมือมากมาย ทั้งยังบุกเบิกนำแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายในสิงคโปร์ และขยับขยายธุรกิจ เปิดสาขาต่างๆ ไปทั่วภูมิภาคเอเซียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศออสเตรเลีย จนปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ประเทศสิงคโปร์กลายเป็น ‘ฮับ’ ตลาดนาฬิกาที่สำคัญในภูมิภาคเอเซีย
และในวาระครบรอบครึ่งศตวรรษของหนึ่งในบูติกนาฬิกาที่สำคัญของโลก Blancpain (บลองแปง) ในฐานะพันธมิตรที่เป็นคู่ค้ากันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 2000 ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองให้กับวาระที่น่ายินดีนี้ ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ Fifty Fathoms Bathyscaphe Cortina Watch 50th Anniversary Golden Jubilee Edition (ฟิฟตี ฟาธอมส์ บาธีสเคป คอร์ทินา วอทช์ เดอะ ฟิฟตีธ์ แอนนิเวอร์ซารี โกลเดน จูบิลี เอดิชั่น) ด้วยจำนวนการผลิตเพียง 50 เรือน เผยโฉมอย่างโดดเด่นในตัวเรือนแบบสองกษัตริย์ที่เป็นการผสาน 2 วัสดุ เข้าด้วยกันได้แก่ไทเทเนียมเกรด 23 ที่นำมาทำตัวเรือนหลัก และ ‘Sedna® Gold’ (เซดนา โกลด์) 18K ทองชนิดพิเศษที่จดสิทธิบัตรโดย ‘Swatch Group’ (สวอทช์ กรุ๊ป) ประกอบด้วยส่วนผสมหลักเป็นทองคำ เสริมด้วยทองแดงและพัลลาเดียม ให้สีสันที่สวยงามและส่งประกายเปล่งปลั่งได้ชั่วนิรันดร์ ตั้งชื่อตามดาวเคราะห์แคระที่อยู่ไกลที่สุดในระบบสุริยะ นำมาสร้างสรรค์ขอบตัวเรือนดำน้ำแบบหมุนทิศทางเดียว และเม็ดมะยมแบบขันเกลียว โดยส่วนผิวหน้าของกรอบตัวเรือน ‘Sedna® Gold’ 18K ที่ติดตั้งสเกลเวลา 60 นาที เป็นการรังสรรค์ขึ้นจาก ‘Ceragold®’ (เซราโกลด์) ซึ่งเป็นการสังเคราะห์ทอง 18K เข้าไปในเนื้อเซรามิก จึงให้สัมผัสที่นุ่มนวลและกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว
ตัวเรือนดำน้ำแบบสองกษัตริย์นี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยขนาด 43.0 มิลลิเมตร หนา 13.45 มิลลิเมตร กรุด้วยคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อน พร้อมความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 300 เมตร ซึ่งรูปแบบดังกล่าว ยังถือเป็นนาฬิกาดำน้ำแบบสองกษัตริย์รุ่นแรกของแบรนด์ที่ผลิตขึ้นจากไทเทเนียมและทอง ‘Sedna® Gold’ 18K อีกด้วย ส่วนพื้นหน้าปัดเป็นสีเทา-ดำที่ปัดลายซาตินในแนวดิ่งดูแปลกตา ส่วนหลักชั่วโมงและเข็มยังคงดีไซน์ในแบบฉบับของ Fifty Fathoms Bathyscaphe แต่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการผลิตขึ้นจากทอง ‘Sedna® Gold’ 18K และฉาบด้วยสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova®’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) ที่แสดงเวลาได้ชัดเจนแม้ในที่มืด โดยแสดงเวลาแบบ 3 เข็ม พร้อมเคลือบสีแดงที่ส่วนปลายของเข็มวินาทีเพื่อความชัดเจนในการอ่านค่า และฟังก์ชันแสดงวันที่บนจานดิสก์สีดำที่จัดแสดงผ่านช่องหน้าต่างบริเวณ 4-5 นาฬิกา
สำหรับการทำงานยังคงใช้บริการของกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ออโตเมติกประจำตระกูลอย่าง Cal.1315 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30.6 มิลลิเมตร หนา 5.65 มิลลิเมตร มีจำนวนชิ้นส่วนรวม 227 ชิ้น ทับทิม 35 เม็ด อัตราความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สามารถกักเก็บพลังงานได้นานถึง 120 ชั่วโมง จากตลับลานที่มีอยู่ถึง 3 ชุด และใช้สายใยจักรกลอกที่ทำจากซิลิกอน ซึ่งปลอดผลกระทบจากสนามแม่เหล็กและมีความทนทานสูง ขึ้นลานด้วยโรเตอร์ทอง 18K เคลือบสีเทาดำพร้อมสลักชื่อแบรนด์ ทั้งหมดนี้สามารถชื่นชมได้ทางฝาหลังคริสตัลแซพไฟร์ที่พิเศษด้วยการยิงเลเซอร์สลักเป็นข้อความ ‘Cortina Watch 50th Anniversary Since 1972’ อย่างโดดเด่น ประกอบกับสายผ้า ‘Sail Canvas Fabric’ (เซล แคนวาส ฟาบริค) สีดำ เย็บตะเข็บด้วยด้ายสีเทา
Fifty Fathoms Bathyscaphe Cortina Watch 50th Anniversary Golden Jubilee Edition จะจัดจำหน่ายเฉพาะที่บูติก ‘Cortina Watch’ เท่านั้น ในราคา 20,700 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเทียบเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 535,000 บาท ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น หากนักสะสมคนไหนที่สนใจ สามารถติดต่อผ่านบูติก ‘Cortina Watch’ เดี๋ยวนี้ได้เลย
