by: ‘TomyTom’
ก่อนหน้านี้ Blancpain (บลองแปง) ได้เปิดตัวบทแรกแห่งการฉลองให้กับนาฬิกาดำน้ำ Fifty Fathoms (ฟิฟตี ฟาธอมส์) ที่เดินทางมาถึงอายุ 70 ปี ณ ค.ศ. 2023 กันไปแล้ว ด้วยรุ่นพิเศษในรูปแบบดั้งเดิมเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษรุ่นต้นฉบับเมื่อปี 1953 บัดนี้ก็ถึงเวลาของบทที่ 2 แห่งการฉลองกันแล้ว โดยเป็นการเปิดตัวนาฬิกาดำน้ำสายพันธุ์ใหม่ของตระกูลที่ให้ชื่อว่า Fifty Fathoms Tech (ฟิฟตี ฟาธอมส์ เทค) โดยเปิดประเดิมด้วยรุ่น Fifty Fathoms Tech Gombessa (ฟิฟตี ฟาธอมส์ เทค กอมเบสซา) ซึ่งทาง Blancpain นำโดย Marc A. Hayek (มาร์ก เอ ฮาแย็ก) ประธานและซีอีโอของแบรนด์ ได้ Laurent Ballesta (โลฮองต์ บัลเลสตา) นักดำน้ำ ช่างภาพ และนักชีววิทยาทางทะเล ผู้ก่อตั้งโครงการ ‘Gombessa’ อันเป็นโครงการที่ Blancpain มีส่วนช่วยผลักดันในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งเมื่อปี 2013 จนมีอายุครบ 10 ปี ในปีนี้มาร่วมพัฒนาด้วย
Fifty Fathoms Tech Gombessa ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการเชิงเทคนิคสำหรับการดำน้ำในยุคปัจจุบันที่ต้องการอยู่ใต้น้ำนานขึ้นกว่าในอดีต โดยมีจุดมุ่งหมายให้สามารถจับเวลาขณะอยู่ใต้น้ำได้นานยิ่งขึ้น จาก 60 นาที อันเป็นมาตรฐานของนาฬิกาดำน้ำทั่วไป ซึ่ง Fifty Fathoms เป็นผู้ริเริ่มเป็นรุ่นแรกจากความต้องการของ Jean-Jacques Fiechter (ฌอง-ฌาคส์ ฟิชแตร์) นักดำน้ำแบบสกูบา ผู้เป็นซีอีโอของแบรนด์ในยุคนั้น อันเป็นหนึ่งคุณลักษณะสำคัญที่ทำให้ Fifty Fathoms มีสถานะเป็นนาฬิกาดำน้ำแบบสมัยใหม่รุ่นแรกของโลก มาเป็น 3 ชั่วโมงซึ่งยังไม่เคยมีแบรนด์ใดทำมาก่อน อันเป็นลักษณะการพัฒนาที่คล้ายกับ Fifty Fathoms ในอดีตเป็นอย่างมาก เพราะเป็นความต้องการของ Marc A. Hayek ผู้เป็นนักดำน้ำสกูบาเช่นเดียวกับ Jean-Jacque Fiechter นั่นเอง
แนวคิดในการสร้างนาฬิกาสายพันธุ์ใหม่นี้เริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน และลงมือพัฒนาในปี 2019 โดยตั้งต้นจาก 2 องค์ประกอบหลัก คือกลไกที่มีเข็มเล่มพิเศษที่เดินครบ 1 รอบ ในเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อเป็นเข็มสำหรับตั้งค่าจับเวลาดำน้ำโดยเฉพาะ ปรับตั้งด้วยเม็ดมะยมชิ้นเดียวกับเข็มบอกเวลาปกติ และขอบตัวเรือนชนิดหมุนได้ทิศทางเดียวที่มีสเกลเวลาอยู่ถึง 3 ชั่วโมง โดยมีเลขอ้างอิงเป็น 30, 1, 1.30, 2 และ 2.30 เป็นต้น เพื่อใช้งานควบคู่กับเข็มเล่มพิเศษนี้ และออกแบบให้ส่วนปลายของเข็มเป็นวัสดุและสีเดียวกับสเกลบนขอบตัวเรือน โดยเคลือบสารเรืองแสงสีเขียวอ่อนที่เปล่งแสงเป็นสีเขียวเอาไว้ให้มองเห็นได้อย่างง่ายดายไม่สับสน ลักษณะการทำงานร่วมกันเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก และจดสิทธิบัตรโดยมี Marc และ Laurent ถือครองร่วมกัน จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการออกแบบตัวเรือนด้วยโจทย์ความเหมาะสมกับการใช้งานขณะดำน้ำลึก แต่ยังคงต้องมีรูปลักษณ์ที่ดูแล้วรู้ว่าเป็นสมาชิกในตระกูล Fifty Fathoms และต้องมีความแตกต่างที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย แผ่นวงขอบตัวเรือนจึงถูกสร้างขึ้นจากเซรามิกสีดำผิวเงาซึ่งออกแบบให้มีความโค้งละมุนตา ที่นอกจากเพื่อให้นึกถึงความโค้งของแผ่นวงขอบตัวเรือนแซพไฟร์ของ Fifty Fathoms รุ่นอื่นๆ แล้ว ยังมีความโค้งมากกว่าและวางองศาลาดเอียงลงสู่กระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์ที่วางอยู่ในระนาบที่ต่ำกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยขจัดความผิดเพี้ยนในการอ่านค่า ส่วนแนววงขอบตัวเรือนที่บากร่องใหญ่มาคล้ายกับลูกกระสุนนั้นมีขนาดเท่ากับแนวตัวเรือนชิ้นกลางจนแทบจะดูกลายเป็นตัวเรือนกันเลยทีเดียว
วัสดุที่ใช้สร้างตัวเรือน ขอบตัวเรือน และวงฝาหลังนั้น Blancpain เลือกใช้ไทเทเนียมเกรด 23 หรือเรียกอีกอย่างว่าเกรด ‘5 ELI’ (Extra Low Interstitials – เอ็กซ์ตรา โลว์ อินเตอร์สติเชียล์ส) อันเป็นเกรดที่ Blancpain เพิ่งเริ่มนำมาใช้เมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นไทเทเนียมเกรดที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ณ ขณะนี้ ซึ่งเด่นด้านความแข็งแกร่ง ไม่ก่ออาการแพ้ และมีน้ำหนักเบา เหมาะอย่างยิ่งกับตัวเรือนที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่โตถึง 47.0 มิลลิเมตร วิธีการยึดสายก็ถูกออกแบบใหม่ โดยเป็นการขันสกรูยึดจากทางด้านหลังเข้ากับขาตัวเรือนที่เป็นแถบอยู่ตรงส่วนกลาง ไม่ได้มีขาตัวเรือนอยู่ 2 ฝั่ง อย่างตัวเรือนทั่วไป ซึ่งก็ทำให้สายแนบสนิทกลมกลืนเข้ากับตัวเรือนอย่างพอดิบพอดี โดยเป็นสายยางสีดำรูปทรงคล้ายสะพาน ซึ่งด้านในของสายมีการเสริมไทเทเนียมเอาไว้ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และรักษารูปทรงของสาย ทั้งยังมีสายต่อเพิ่มความยาวสำหรับใส่ทับแขนชุดดำน้ำมาให้ด้วย ตัวล็อกสายจะเป็นแบบหัวเข็มขัดขนาดกว้างที่ใช้งานได้สะดวก ส่วนการกันน้ำกระทำได้ถึงระดับ 30 บาร์ หรือราว 300 เมตร โดยติดตั้งฮีเลียมวาล์วมาให้ด้วย อยู่ที่ตำแหน่งราว 10 นาฬิกา เม็ดมะยมซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นชนิดขันเกลียว ก็ออกแบบให้ใหญ่โตทั้งความกว้าง ความหนา และร่องบากทรงกระสุน เพื่อให้จับหมุนได้ถนัด และมีบ่าปกป้องเม็ดมะยมขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแต่มีแนวหลังลาดสอบลง เพื่อลดความเทอะทะรับกับแนวเอียงทางด้านล่างของตัวเรือนชิ้นกลาง อีกทั้งที่ฝั่งด้านซ้ายของตัวเรือนชิ้นกลางยังสลักชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่ไว้อย่างคมชัดสวยงามด้วย
สำหรับหน้าปัดถูกทำสีมาเป็น ‘Absolute Black’ (แอ็บโซลูท แบล็ก) ซึ่งเป็นสีดำสนิทที่สามารถดูดซับแสงได้เกือบ 97% ส่วนหลักชั่วโมงนั้นสร้างขึ้นจากวัสดุเรืองแสงสีส้มที่ขึ้นรูปให้มีแนวโค้งที่ด้านบนเพื่อสร้างมิตินุ่มนวลชวนชมที่สอดคล้องกับแนวโค้งของแผ่นวงขอบตัวเรือน โดยชิ้นเรืองแสงนี้จะเปล่งแสงเป็นสีฟ้า เช่นเดียวกับสารเรืองแสงส้มที่เคลือบเป็นแถบเกือบเต็มพื้นที่อยู่บนเข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีสีดำ ขณะที่เข็มวินาทีกับเข็ม 3 ชั่วโมงสีดำซึ่งออกแบบให้มีรูปทรงต่างกันนั้นจะเคลือบสารเรืองแสงสีเขียวอ่อนให้แสงสีเขียวไว้ที่ส่วนปลายของเข็ม สอดคล้องกับการใช้งานร่วมกับสารเรืองแสงสีเดียวกันนี้ของสเกลบนแผ่นวงขอบตัวเรือน นอกจากนี้เข็มนาทีกับเข็มวินาทียังมีการดัดส่วนปลายให้เบนลงไปใกล้กับสเกลเพื่อให้อ่านค่าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกต่างหาก ส่วนสเกลนาทีบนหน้าปัดกับข้อความ ‘Tech’ เลือกพิมพ์เป็นสีส้มให้รับกับสีของหลักชั่วโมงและเข็มชั่วโมงกับเข็มนาที และตัดกับตราสัญลักษณ์แบรนด์ ชื่อรุ่น และข้อความ ที่พิมพ์ด้วยสีขาว
แม้จะเป็นนาฬิกาดำน้ำระดับ 300 เมตร แต่ Blancpain ก็ยังมอบฝาหลังชนิดขันเกลียวแบบกรุคริสตัลมาเพื่อต้องการให้มองเห็นกลไก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรเตอร์ฉลุช่องขนาดใหญ่ 3 ช่อง ทำสีแอนธราไซต์ ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ ‘Gombessa Expeditions’ (กอมเบสซา เอ็กซ์พีดิชั่น) ปรากฏอยู่อย่างโดดเด่น ได้อย่างชัดเจน โดยกลไกอัตโนมัติที่ใช้กับรุ่นนี้เป็น Cal.13P8 ฟังก์ชั่นบอกเวลา 3 เข็ม บวกกับเข็ม 3 ชั่วโมง สำหรับจับเวลาดำน้ำอีก 1 เข็ม ซึ่งปรับตั้งด้วยเม็ดมะยมชุดเดียวกัน โดยพัฒนาขึ้นบนฐานกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) Cal.1315 นั่นเอง จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมทั้งการสำรองพลังงานที่ทำได้นานถึง 5 วัน จากการใช้ตลับลาน 3 ชุด และมอบความเที่ยงตรงด้วยจักรกลอกแบบฟรีสปรัง และใช้สายใยจักรกลอกที่ทำจากซิลิกอน เช่นเดียวกับ Cal.1315
Blancpain Fifty Fathoms Tech Gombessa มาพร้อมกับกล่องบรรจุนาฬิกาซึ่งถูกออกแบบสร้างมาเป็นพิเศษ โดยเป็นกล่อง ‘Peli™’ (พีลิ) ที่สามารถกันน้ำและกันกระแทกได้ดี และยังนำไปใช้ใส่อุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย สำหรับค่าตัวของเรือนเวลาเพื่อนักดำน้ำมืออาชีพอนุกรมใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อฉลองอายุ 70 ปี ของ Fifty Fathoms นี้ ทาง Blancpain เรียกราคาไว้ที่ 921,000 บาท
