by: ‘Mr.Big’
ปีนี้ Breguet (เบรเกต์) เปิดตัวเรือนเวลาจักรกลทูร์บิญองสำหรับสุภาพบุรุษ โดยนำเสนอมาในคอลเลกชั่นสปอร์ตหรูที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของท้องทะเลอย่าง Marine (มารีน) ซึ่งเราได้แนะนำให้ชมกันไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่คอลเลกชั่นที่ผสมผสานด้วยจักรกลทูร์บิญองของ Breguet สำหรับปีนี้ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังนำวิศวกรรมจักรกลทูร์บิญองมาสร้างสรรค์ในอีกเวอร์ชั่น ภายใต้อารมณ์หรูหราถึงที่สุด ในรูปแบบนาฬิกาจีเวลรีสำหรับสุภาพสตรีจากคอลเลกชั่น Classique (กลาสสีค) ซึ่งนำเสนอออกมาใน 2 เสน่ห์ที่แตกต่าง
Classique Tourbillon 3358 (กลาสสีค ทูร์บิญอง 3358) คือชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับซีรีย์นาฬิกาทูร์บิญองรุ่นนี้ ซึ่ง Breguet ตั้งใจนำเสนอเพื่อข้อมือสุภาพสตรีโดยเฉพาะ ด้วยขนาดตัวเรือน 35.0 มิลลิเมตร สร้างสรรค์ด้วยวัสดุล้ำค่าอย่างทองขาว 18K หรือทองกุหลาบ 18K โดยทั้ง 2 รุ่นวัสดุ มีรายละเอียดในการดีไซน์และตกแต่งหน้าปัดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในรุ่นตัวเรือนทองขาว 18K มาพร้อมหมายเลขรหัส 3358BB/VD/986D0 ได้รับการดีไซน์หน้าปัดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากความงดงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยหมู่ดารา แผ่นฐานหน้าปัดผลิตขึ้นจากเปลือกหอยมุกย้อมสีน้ำเงินมิดไนท์บลู และเคลือบพื้นผิวให้เกิดความมันเงา ประดับประดาด้วยดวงดาวทองขาวจำนวน 21 ดวง ซึ่งสร้างความแตกต่างด้วยการแต่งพื้นผิวแบบพ่นทรายสลับงานขัดเงา ขณะที่ดาวดวงใหญ่ 6 ดวง ฝังเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรเอาไว้ดวงละเม็ดอย่างโดดเด่น นำเสนอการแสดงเวลาแบบ 2 เข็ม ด้วยเข็มทรง ‘Breguet’ ผ่านวงหน้าปัดย่อยแบบเยื้องศูนย์ที่ตกแต่งตัวเลขอารบิกในสไตล์ฟอนต์คลาสสิก ส่วนล่างเจาะเป็นช่องหน้าต่างวงรีขนาดใหญ่เพื่อโชว์การทำงานของจักรกลทูร์บิญองอันเลื่องชื่อของ Breguet ซึ่งจะหมุนครบรอบในทุก 1 นาที เสริมความโดดเด่นด้วยการออกแบบสะพานจักรเหนือกรงเป็นรูปดาวหางพาดผ่านในแนวโค้งอย่างสวยงาม โดยภายในมีการประดับเพชรแบบ ‘Snow-setting’ (สโนว์เซตติง) จำนวน 45 เม็ด ทอแสงระยิบระยับส่งประกายหรูหราชวนฝัน โดยมีหัวยึดแกนทูร์บิญองประดับพลอย ‘Blue Spinel’ (บลู สปิเนล) โดดเด่นอยู่ตรงกลาง
ส่วนรุ่นตัวเรือนทองกุหลาบ 18K จัดเต็มความหรูหรากับหมายเลขรหัส 3358BR/8D/986D0 ซึ่งปูพื้นหน้าปัดด้วยเพชรน้ำเอกหลากหลายไซส์เต็มพื้นที่ จัดเรียงไล่ระดับในแนวโค้งมายังวงหน้าปัดบอกเวลาแบบเยื้องศูนย์ คั่นด้วยวงแหวน ‘Chapter Ring’ (แชปเตอร์ ริง) เปลือกหอยมุกสีขาวธรรมชาติ ซึ่งประดับตัวเลขอารบิกดีไซน์คลาสสิกสลับชื่อแบรนด์ ใจกลางแผ่นหน้าปัดสำทับความหรูหราด้วยการประดับเพชรน้ำงามด้วยเทคนิค ‘Snow-setting’ สร้างมิติอันงามหรูสอดรับกัน เมื่อรวมจำนวนเพชรที่นำมาประดับบนหน้าปัดแล้วมากถึง 281 เม็ด พร้อมการบอกเวลาแบบ 2 เข็ม ด้วยเข็มทรง ‘Breguet’ ที่รังสรรค์จากทองกุหลาบ 18K ด้านล่างเผยให้เห็นชุดจักรกลทูร์บิญองภายในช่องหน้าต่างวงรีขนาดใหญ่ พร้อมสะพานจักรทองกุหลาบฝังเพชร 14 เม็ด พาดผ่านแกนทับทิมสังเคราะห์ในแนวโค้ง
ตัวเรือนของทั้ง 2 รุ่น ใช้ทรงกลมพร้อมขอบข้างเซาะร่องตามแบบฉบับของ Breguet ซึ่งมีขนาดเท่ากันคือ 35.0 มิลลิเมตร หนา 9.3 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนและขาสายประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรจำนวน 70 เม็ด และบนยอดเม็ดมะยมอีก 1 เม็ด กระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อน ทำงานด้วยกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ไขลานทูร์บิญอง Cal.187D ที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วน 168 ชิ้น ทับทิม 21 เม็ด และสายใยจักรกลอกแบบ ‘Breguet’ เดินกำลังด้วยความถี่ 2.5 เฮิรตซ์ และระดับการสำรองพลังงานที่ 50 ชั่วโมง ติดตั้งบนแท่นเครื่องลวดลายสวยงามแปลกตาซึ่งเกิดจากเทคนิคการตอกด้วยมือ พร้อมการสลักชื่อแบรนด์และข้อความ ‘Brevet 7 Messidor An IX’ (เบรเวต์ เซเวน เมสซิดอร์ อัน ไนน์) อันหมายถึงปีที่นวัตกรรมจักรกลทูร์บิญองของ Breguet ได้รับการจดสิทธิบัตรตามปฏิทิน ‘Republican Calendar’ (รีพับลิกัน กาเลนดาร์)
ความงามและงานฝีมืออันล้ำเลิศทั้งหมดนี้สามารถชื่นชมผ่านทางฝาหลังกรุคริสตัลแซพไฟร์ ประกอบกับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเคลือบแก้วสำหรับรุ่นทองขาว 18K และสายหนังจระเข้สีแดงหรือสีน้ำตาลเคลือบแก้ว สำหรับรุ่นตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ทุกแบบมากับตัวล็อกสายที่ดีไซน์เป็นตัวอักษร ‘B’ ของ Breguet แบบพับทบ 3 จังหวะ ประดับเพชร 42 เม็ด ในวัสดุชนิดเดียวกันกับตัวเรือน ตั้งราคาให้เป็นเจ้าของสำหรับรุ่นตัวเรือนทองขาว 18K ที่ 4,944,000 บาท และ 5,297,000 บาท ในรุ่นตัวเรือนทองกุหลาบ 18K
