GP HOME HEADER
GP HOME HEADER
Home Articles BREITLING TOP TIME TRIUMPH - 2 แบรนด์รวม 1 กับหน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลู

BREITLING TOP TIME TRIUMPH – 2 แบรนด์รวม 1 กับหน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลู

by: ‘TomyTom’

 

แฟนๆ นาฬิกาสวิส Breitling (ไบรท์ลิง) และมอเตอร์ไซค์อังกฤษ Triumph (ไทรอัมพ์) มีเฮกันในปีนี้ด้วยงานคอลแลบส์ชิ้นใหม่ระหว่างแบรนด์ผลิตภัณฑ์สปอร์ตชั้นนำต่างวงการ นี่คือ Breitling Top Time Triumph (ไบรท์ลิง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์) ที่นำแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมคาเฟ่เรเซอร์ของเหล่าสิงห์มอเตอร์ไซค์ในยุคทศวรรษ 1960s มาถ่ายทอดผ่านเรือนเวลาโครโนกราฟดีไซน์ย้อนยุคตระกูล Top Time (ท็อป ไทม์) เจเนอเรชั่นปัจจุบันของ Breitling

MITSUBISHI

 

หน้าปัดของ Top Time Triumph ถูกปัดลายผิวให้เป็นแนวแบบโบไท อันเป็นลักษณะที่ชาวนาฬิกาเรียกกันว่า ‘Zorro Dial’ (ซอร์โร ไดอัล) หรือ ‘หน้าปัดซอร์โร’ นั่นเอง ส่วนสีฟ้า ‘Ice-blue’ (ไอซ์บลู) ที่เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งของพื้นหน้าปัดนั้นอ้างอิงมาจากสีบน 2 ผลงานในอดีตของทั้งคู่ นั่นคือสีฟ้าของรถ Triumph Thunderbird 6T (ไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด ซิกซ์ตี) จาก ค.ศ. 1951 และหน้าปัดสีฟ้าเรือนหายากของนาฬิกา Breitling Top Time Ref.815 จากยุคทศวรรษ 1970s โดยมีตราสัญลักษณ์อันเกรียงไกรของทั้ง 2 เป็นชิ้นงานสีดำอยู่ที่ตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกาบนหน้าปัด ล้อมทั้งหมดด้วยสเกล ‘Tachymeter’ (ทาคีมิเตอร์) สีขาวบนแผ่นวงแหวนสีดำ และมีการสลับคู่สีตรงข้ามบริเวณแนวพื้นที่ของโบว์ไทฝั่งซ้าย ซึ่งทำให้อ่านค่าบนมาตรได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ เช่นเดียวกับสเกลสีขาวที่พิมพ์บนแผ่นหน้าปัดขนาดเล็กทรงเหลี่ยมมนที่มีมิติด้วยพื้นสีดำผิวลายก้นหอยทั้ง 2 วง และแท่งหลักชั่วโมงสีดำทั้ง 10 ชิ้น ส่วนบนเข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีเคลือบโรเดียมคาดร่องแถบสีดำและแถบสี่เหลี่ยม ณ ตำแหน่งหลักชั่วโมงทั้ง 12 ก็มีการเคลือบสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) สีขาวมาให้ด้วย ขณะที่เข็มขนาดเล็กและเข็มจับเวลาถูกเคลือบด้วยโรเดียมทั้งหมด โดยมีการเคลือบสีขาวบนเข็มจับเวลาทั้ง 2 เพื่อสร้างจุดสังเกตเพิ่มเติม

 

ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 41.0 มิลลิเมตร หนา 14.27 มิลลิเมตร ผนึกกระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์ทรงโดม เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ฝั่ง กันน้ำได้ 3 บาร์ (เทียบเท่า 30 เมตร) อันเป็นขนาดที่จงใจให้สวมใส่ได้ทุกเพศของรุ่นนี้ มากับปุ่มกดทรงเห็ดสไตล์ย้อนยุคที่ทำให้กดใช้งานได้ง่าย ภายในตัวเรือนบรรจุด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลาได้ 30 นาที ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง Cal.23 กักเก็บพลังงานได้ 48 ชั่วโมง ซึ่งปรับแต่งมาจาก Cal.7753 ของ ETA (อีทีเอ) แล้วนำไปผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในการทำงานด้วยมาตรฐานโครโนมิเตอร์ของ COSC ตามธรรมเนียมของ Breitling แต่ไม่สามารถมองเห็นตัวเครื่องได้เพราะใช้ฝาหลังสเตนเลสสตีลชนิดแผ่นทึบ เพื่ออุทิศพื้นที่ให้กับงานสลักภาพสเก็ตช์เครื่องยนต์ ‘Parallel Twin Engine’ (พารัลเลล ทวิน เอนจิน) ของ Triumph ดั่งนำเครื่องมอเตอร์ไซค์มาสิงอยู่ในเรือนนาฬิกา กระทั่งสายที่ติดตั้งมาให้ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นสายหนังวัวสีดำฉลุรูระบายอากาศ เย็บตะเข็บด้ายสีเทาอันเป็นดีไซน์สไตล์เรซิงซึ่งมากับตัวล็อกแบบบานพับสเตนเลสสตีล

 

รหัสประจำตัวของ Breitling Top Time Triumph รุ่นนี้ คือ Ref.A23311121C1X1 ซึ่งถือเป็นเอดิชั่นพิเศษที่ไม่ได้ระบุจำนวนผลิตเอาไว้ และก็ไม่รู้ว่าผลิตขึ้นมามากน้อยเพียงใด แต่ถ้าไปเห็นเรือนไหนมีรหัสเป็น Ref.A233111A1C1X1 ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเรือนนั้นจะเป็นรุ่น Top Time Triumph Speed Twin Owners’ Limited Edition (ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน โอนเนอร์ส ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ซึ่งมีรายละเอียดโดยส่วนใหญ่เหมือนกัน ยกเว้นหน้าปัดที่ไม่ได้ปัดผิวเป็นแบบ ‘หน้าปัดซอร์โร’ แต่ปัดเป็นลายรัศมี ‘Sunray’ (ซันเรย์) แทน และการสลักบนตำแหน่ง 12 นาฬิกา ของฝาหลังซึ่งแทนชื่อรุ่น ‘Top Time’ ของเวอร์ชั่นไม่จำกัดด้วยหมายเลขประจำเรือน ‘X/270’ ซึ่งบอกว่าเป็นเรือนลำดับเท่าใดจาก 270 เรือน ที่ผลิตขึ้นมา โดยจะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ซื้อมอเตอร์ไซค์ Triumph ผลิตจำนวนจำกัด 270 คันรุ่น Speed Twin Breitling Limited Edition (สปีด ทวิน ไบรท์ลิง ลิมิเต็ด เอดิชั่น) อันเป็นงานคอลแลบส์ของ 2 แบรนด์ ในเรือนร่างมอเตอร์ไซค์ ได้จับจองก่อนผ่านทาง Triumph โดยจับคู่หมายเลขเรือนให้ตรงกับหมายเลขประจำรถทั้ง 270 คัน แต่หากผู้จับจองรถไม่สั่งซื้อนาฬิกาจาก Triumph ภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 ทาง Breitling ก็น่าจะนำออกมาจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป

 

ราคาจำหน่ายของนาฬิกา Breitling Top Time Triumph ถูกตั้งไว้ที่ 5,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 178,600 บาท แต่หากเป็น Breitling Top Time Triumph Speed Twin Owners’ Limited Edition ก็ขอค่าลิมิเต็ดเพิ่มอีกหน่อยเป็น 5,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 185,000 บาท

 

การตกแต่งของมอเตอร์ไซค์เอดิชั่นพิเศษผลิตจำนวนจำกัด 270 คัน Triumph Speed Twin Breitling Limited Edition นั้นจะเป็นไปในธีมเดียวกับนาฬิกา Top Time Triumph คือใช้ถังน้ำมันสีฟ้าคาดลายสีดำโทนเดียวกับสีหน้าปัดนาฬิกา โดยเป็นรูปแบบสีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์ไซค์ Triumph ในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Wild One’ (เดอะ ไวลด์ วัน) ที่ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 1953 ส่วนสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นงานคอลแลบส์กับ Breitling บนตัวรถก็คือ ลายปักตราสัญลักษณ์ ‘B’ ด้วยด้ายสีเทาบนเบาะหนังสีดำฉลุรูระบายความร้อน แต่งตะเข็บด้ายสีเทา อันเป็นธีมเดียวกับสายของนาฬิกาเอดิชั่นนี้ ชื่อแบรนด์ Breitling บนถังน้ำมัน สัญลักษณ์ ‘B’ เป็นลายสลักบนฝาครอบเครื่อง และดีไซน์หน้าปัดของมาตรวัดความเร็วกับมาตรวัดรอบที่ Breitling ร่วมออกแบบ โดยใช้สีและลักษณะที่คล้ายกับหน้าปัดของนาฬิกา Top Time Triumph

SEIKO JAN 23 CONTENT RGT