UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles CARTIER TANK ASYMÉTRIQUE - การเกิดใหม่ของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

CARTIER TANK ASYMÉTRIQUE – การเกิดใหม่ของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

by: ‘Mr.Big’

 

ในปี 1917 นั้น Louis Cartier (หลุยส์ คาร์เทียร์) ได้ออกแบบนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นงานดีไซน์แนวใหม่ของเครื่องบอกเวลาในสมัยนั้น และตั้งชื่อคอลเลกชั่นนาฬิกาที่ออกแบบมาใหม่นั้นว่า Tank (แทงก์) ตามลักษณะทรงสี่เหลี่ยมที่ดูเหมือนรถถัง ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนางานดีไซน์ให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่ง Tank Asymétrique (แทงก์ อซีมเมทรีค) ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมาจากรูปแบบต้นตำรับนั้น โดยถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1936 และสร้างความแปลกตาแปลกใจด้วยการประยุกต์การออกแบบตัวเรือนให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

 

สำหรับ Tank Asymétrique ที่เปิดตัวในปี 2020 นี้ เป็นการหวนกลับมาในฐานะ Privé Collection (พริเว คอลเลกชั่น) ซึ่งเป็นการนำอดีตอันเลื่องชื่อของแบรนด์กลับมาเล่าใหม่รุ่นล่าสุด เชิดชูเอกลักษณ์ด้วยงานออกแบบสไตล์ ‘Re-creation’ (รีครีเอชั่น) ที่ยังคงความโดดเด่นไว้ดังเช่นที่ปรากฏอยู่ในคอลเลกชั่นแรกปี 1936 ตัวเรือนสร้างสรรค์ในทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ขนาด 47.15 x 26.2 มิลลิเมตร หนา 6.38 มิลลิเมตร พร้อมขาสายแบบ 3 แกน และเม็ดมะยมประดับไพลินหรือทับทิมทรงหลังเบี้ย เลย์เอาต์ต่างๆ บนพื้นหน้าปัดถูกดีไซน์ให้มีการขยับเอียงไปทางขวา 30 องศา ทำให้ตำแหน่ง 12 นาฬิกาถูกจัดวางไว้บริเวณมุมขวาบนของสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กลายเป็นรูปแบบอสมมาตรที่ดูสมมาตรกันอย่างน่าประหลาดใจ ส่วนการแสดงเวลาใช้ตัวเลขอารบิกสลับกับมาร์คเกอร์อย่างมีสไตล์ พร้อมเข็มชี้บอกเวลาชั่วโมงและนาทีทรงดาบสุดคลาสสิก

 

ขับเคลื่อนเวลาด้วยกลไกไขลานชุดคลาสสิก Cal.1917 MC ที่มีความบางเป็นพิเศษเพียง 2.9 มิลลิเมตร และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกลไกที่ 16.0 x 12.95 มิลลิเมตร มีอัตราความถี่ที่ระดับ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง สามารถสำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง ประกอบกับสายหนังจระเข้ มาใน 3 วัสดุให้เลือก ได้แก่ทอง 18K ทองกุหลาบ 18K และแพลทินัม ผลิตในจำนวนจำกัดเพียงแบบละ 100 เรือนเท่านั้น ในราคา 26,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 870,000 บาท สำหรับรุ่นทองและทองกุหลาบ 18K และ 30,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 993,000 บาท สำหรับเวอร์ชั่นแพลทินัม

 

นอกจากรุ่นหน้าปัดปกติที่สร้างสรรค์ขึ้นตามแบบรุ่นปี 1936 แล้ว Cartier ยังได้สร้างสรรค์รุ่นหน้าปัดเปลือยหรือ Tank Asymétrique Skeleton (แทงค์ อซีมเมทรีค สเกลตัน) ขึ้นมาพร้อมกันด้วย โดยสร้างสรรค์ขึ้นมาในตัวเรือนทรงเดียวกันและมีขนาดเท่ากันคือ 47.15 x 26.2 มิลลิเมตร แต่เพิ่มความหนาเป็น 7.82 มิลลิเมตร เนื่องจากถูกบรรจุด้วยกลไกไขลาน Cal.9623 MC ที่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า โดยชุดจักรดังกล่าวมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32.0 x 21.1 มิลลิเมตร หนา 4.2 มิลลิเมตร อัตราความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง และสำรองพลังงานได้ 48 ชั่วโมง

 

ชุดจักรกลดังกล่าวปรากฏอยู่ภายในเรือนเวลาไร้หน้าปัด มีเพียงโครงสะพานจักรที่จัดเรียงเป็นมาร์คเกอร์ในระนาบเอียง 30 องศา แสดงเวลาแบบ 2 เข็ม ผนึกด้วยแผ่นคริสตัลแซพไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ประกอบกับสายหนังจระเข้ สร้างสรรค์ใน 3 วัสดุตัวเรือนให้เลือก ได้แก่ตัวเรือนแพลทินัม ตัวเรือนแพลทินัมประดับเพชร และตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ส่วนจำนวนการผลิตคงไว้ที่แบบละ 100 เรือนเช่นเดียวกัน ในส่วนของราคายังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT
Luxe Time Pop Up