by: ‘TomyTom’
ความน่าหลงใหลแห่งโลกยนตรกรรม เป็นหนึ่งในรูปแบบที่วงการนาฬิกามักหยิบยกมาสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเรือนเวลาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นยนตรกรรมในอดีต ปัจจุบัน หรือแม้แต่ในอนาคต อย่างเช่นการตกแต่งเรือนเวลาความซับซ้อนสูง Grand Central Tourbillon Flash CX 36 (แกรนด์ เซ็นทรัล ทูร์บิญอง แฟลช ซีเอ็กซ์ เธอร์ตีซิกซ์) ผลงานใหม่จาก Franck Muller (แฟรงค์ มุลเลอร์) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษในตัวเรือนขนาดย่อมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น
นักออกแบบของ Franck Muller ตีความอาณาจักรแห่งยนตรกรรมอนาคตออกมาในลักษณะของความมินิมอล ที่โดดเด่นและให้ความรู้สึกกล้าแกร่ง โดยใช้สีนีออนเจิดจ้าสดใสเป็นสื่อนำ นาฬิกาที่เป็นฐานในการสร้างสรรค์หนนี้ก็คือ เรือนเวลาความซับซ้อนสูง Grand Central Tourbillon ที่ทรงอานุภาพความเที่ยงตรงและรูปแบบอันน่าประทับใจด้วยชุดจักรทูร์บิญองที่ออกแบบให้อยู่กึ่งกลางทางด้านหน้า บรรจุมาในตัวเรือนทรง ‘Tonneau’ (ตอนโน) อันเป็นหนึ่งลักษณะประจำตัวของทางแบรนด์ โดยเป็นตัวเรือนที่เรียกว่า ‘Cintrée Curvex CX’ (แซงเทร คูร์เวซ์ ซีเอ็กซ์) ซึ่งออกแบบขึ้นใหม่ และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 กับรูปแบบถังเบียร์ทรงโค้งที่มีแผ่นกระจกหน้าปัดโค้งแผ่ขยายจนถึงแนวขอบตัวเรือนจนชิดกับขอบสายนาฬิกา ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการยึดกระจกด้วยเทคนิคใหม่ ขณะที่ขอบตัวเรือนจะอยู่ภายใต้กระจก และทำหน้าที่เป็นขอบหน้าปัดไปในตัวซึ่งสำหรับ Flash CX 36 นี้จะเป็นขอบไทเทเนียมสีดำ ส่วนตัวเรือนสีดำนั้นทำขึ้นจากคาร์บอน เป็นตัวเรือนขนาดเล็กที่วัดขนาดได้ 36.5 x 52.65 มิลลิเมตร หนา 12.3 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ 30 เมตร ขณะที่เม็ดมะยมก็ถูกเคลือบเป็นสีดำให้เข้ากันด้วย
แผ่นผืนหน้าปัดที่ทำจากทองเหลืองปกคลุมด้วยสีดำที่ดูเรียบง่ายแต่มีมิติล้ำลึกด้วยการแต่งผิวแบบ ‘Microblasted’ (ไมโครบลาสเต็ด) ให้เกิดเนื้อเม็ดละเอียดผิวด้าน เป็นฉากหลังที่ยอดเยี่ยมให้กับหลักชั่วโมงเชิงเส้นโครงสีดำที่ดูเข้มแข็งหนักแน่น พิมพ์กรอบสเกลนาทีทรงเหลี่ยมด้วยสีขาว และเปิดช่องกลมวงใหญ่ ณ กึ่งกลาง อันเป็นตำแหน่งของจักรทูร์บิญองขนาดใหญ่เคลือบสีดำที่เคลื่อนหมุนเพื่อต้านทานแรงโน้มถ่วง ช่วยให้กลไกควบคุมเวลาทำงานได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำยิ่งขึ้น โดยบนตัวกรงมีสะพานจักรที่ออกแบบให้มีลักษณะเป็นเข็มสำหรับชี้บอกวินาทีด้วย ขณะที่เข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีนั้นมีแกนเข็มเป็นวงแหวนสีดำล้อมรอบกรงทูร์บิญอง ชิ้นวัตถุสีสันสดใสที่ทำจาก ‘PMMA’ (พีเอ็มเอ็มเอ) หรือ ‘Polymethyl Methacrylate’ (โพลีเมธิล เมธาคริเลท) ซึ่งมีให้เลือกสรรกันถึง 3 สี คือสีส้มเบลซซิง สีเขียวนีออน และสีน้ำเงินอิเล็กทริก ถูกนำมาใช้กับหลักชั่วโมงและสัญลักษณ์ชี้บอกวินาที ขณะที่เข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีฉลุโปร่งใช้สีขาว สอดคล้องกับสีขาวของชื่อแบรนด์และข้อความ ‘Swiss Made’ (สวิส เมด) บนหน้าปัด โดยสายที่ติดตั้งมาเป็นไนลอนสีสดใสสีเดียวกับที่ตกแต่งบนหน้าปัดของแต่ละเวอร์ชั่น ประกบด้านหลังด้วยแผ่นหนังวัว ล็อกด้วยหัวเข็มขัดสเตนเลสสตีลเคลือบสีดำด้านด้วยเทคนิค PVD
กลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) อัตโนมัติทรงถังเบียร์ขนาด 32.1 x 40.45 มิลลิเมตร หนา 11.34 มิลลิเมตร ความถี่การทำงาน 18,000 ครั้ง/ชั่วโมง Cal.MVT FM CX 36T-CTR ของนาฬิการุ่นนี้ ออกแบบโครงสร้างกลไกให้วางซ้อนกัน ซึ่งเป็นความซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง ใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 1 ปี ซึ่งนอกจากทูร์บิญองชนิด 60 วินาที ณ ตำแหน่งกึ่งกลางทางฝั่งด้านหน้าแล้ว เมื่อพลิกมาทางด้านหลังก็จะเห็นโรเตอร์ขึ้นลานขนาดเล็กผิวปัดลาย ‘Sunray’ (ซันเรย์) วางตำแหน่งเยื้องศูนย์กลาง ส่วนพลังงานสำรองก็กระทำได้นานถึง 4 วัน จำนวนชิ้นส่วนของกลไกคาลิเบรอนี้นับได้ถึง 313 ชิ้น ใช้ทับทิมถึง 52 เม็ด ซึ่งแตกต่างกับ Cal.MVT FM CX 40T-CTR ที่อยู่ในรุ่น Grand Central Tourbillon แบบตัวเรือนขนาดใหญ่ ตรงที่มีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่าเท่านั้น เพราะแม้แต่เรื่องการตกแต่งก็ถูกกระทำมาในลักษณะเดียวกัน โดยมีทั้งลายแถบริ้ว ‘Côtes de Genève’ (โกตส์ เดอ เฌอแนฟ) บนสะพานจักร แนววงขัดบนแท่นเครื่องและเฟือง การขัดลบเหลี่ยมมุมและขัดเงาบนโรเตอร์และสะพานจักร และลายรัศมี ‘Sunray’ เป็นแนวเกลียวบนโรเตอร์และฝาครอบตลับลาน หากแต่มีการเคลือบสะพานจักรเป็นสีดำเพื่อความสอดคล้องกับสีของตัวเรือน ซึ่งชื่นชมได้อย่างเต็มตาผ่านฝาหลังกรุคริสตัลแซพไฟร์บานใหญ่
กับราคา 203,600 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่เทียบเป็นเงินบาทได้ราว 4.62 ล้านบาท ซึ่ง Franck Muller เชิญชวนให้เป็นเจ้าของ Grand Central Tourbillon Flash CX 36 รุ่นนี้ ซึ่งมีให้เลือกกัน 3 เวอร์ชั่นสี และมีจำหน่ายเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียเท่านั้น