ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ที่แบรนด์สวิสราคาน่าคบหาแห่งนครเจนีวา Frédérique Constant (เฟรเดรีค คองสตองท์) เปิดตัวนาฬิการะดับสูงสุดของแบรนด์ซึ่งมาพร้อมกับจักรกลทูร์บิญอง เจ้าแห่งความเที่ยงตรงของระบบควบคุมเวลา ร่วมด้วยฟังก์ชันปฏิทินตลอดชีพที่ไม่ต้องเสียเวลาและอารมณ์ในการปรับตั้งค่าปฏิทินเป็นเวลานานแสนนานจนกระทั่งถึงวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2100 ตราบที่นาฬิกายังคงไม่หยุดเดิน โดยตั้งชื่อรุ่นอย่างตรงไปตรงมาว่า Classic Perpetual Calendar Tourbillon Manufacture (คลาสสิก เพอร์เพทชวล กาเลนดาร์ ทูร์บิญอง แมนูแฟกเจอร์) ก็ทำให้วงการนาฬิกาโลก ทั้งผู้ผลิต ผู้ขาย และผู้ซื้อ หันมามองผู้ผลิตแบรนด์นี้กันอย่างตั้งใจ เพราะเมื่อพินิจจากกลไกที่สร้างขึ้นแบบ ‘In-house’ (อินเฮาส์) ภายในโรงงานของตนเอง ความประณีตงดงามของผลงานการออกแบบ การผลิต และการตกแต่งแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าทางแบรนด์จะทำราคาขายได้เพียงราวกว่า 8 แสนบาทเท่านั้น (สำหรับเวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล) ซึ่งก็ทำให้ผู้ที่อยากเป็นเจ้าของนาฬิกาทูร์บิญองต่างกระเป๋าสั่นไปตามๆ กัน ยิ่งมีฟังก์ชัน ‘Perpetual Calendar’ เช่นนี้ด้วยแล้ว เท่ากับว่าสามารถเป็นเจ้าของสุดยอดจักรกลนาฬิกาได้ในราคาที่ย่อมเยาอย่างยิ่ง
ล่าสุดในปี 2019 นี้ ทางแบรนด์ก็ได้ปล่อยเวอร์ชั่นสีหน้าปัดใหม่ซึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้มที่มีพื้นที่เฉพาะวงหน้าปัดขนาดเล็ก 3 วงกับวงแหวนริมขอบหน้าปัด โดยเว้นส่วนที่เหลือให้มองเห็นโครงสร้างกลไกที่ฉลุเป็นลักษณะ ‘Skeleton’ (สเกเลตัน) และขัดแต่งผิวเครื่องเป็นลายวงก้นหอยเหลื่อมซ้อนกัน อันเป็นรูปแบบเดียวกับเวอร์ชั่น ‘Skeleton’ ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2018 พร้อมกับเวอร์ชั่นหน้าปัดปกตินั่นเอง โดยจัดวางอยู่ในตัวเรือนขัดเงาขนาด 42.0 มิลลิเมตร เช่นเดิม และมีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่นสเตนเลสสตีล และทองกุหลาบ 18K ซึ่งต่างก็จับคู่มากับสายหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มเย็บตะเข็บด้ายสีขาว
ค่าปฏิทินทุกค่าของฟังก์ชัน ‘Perpetual Calendar’ ถูกสร้างให้แสดงด้วยเข็มขนาดเล็กรูปทรงคล้ายเข็มฉีดยาเพื่อสร้างอารมณ์คลาสสิก โดยเข็มตำแหน่ง 12 นาฬิกาจะมี 2 ชุด ทำหน้าที่แสดงเดือนและปีอธิกสุรทิน ส่วนเข็มที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกากับตำแหน่ง 9 นาฬิกา ทำหน้าที่แสดงวันที่และวัน จึงอ่านค่าได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ยิ่งเป็นสีหน้าปัดที่ตัดกับสีเงินของกลไกเช่นนี้ บวกกับการใช้เข็มสีขาวขัดเงาด้วยแล้ว ก็ยิ่งชัดเจน กลไกที่ใช้ในการขับเคลื่อนยังคงเป็นเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ ‘In-house’ ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง Cal.FC-975 เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นอื่นๆ ความน่าสนใจของกลไกชุดนี้นอกจากจะเป็นเครื่องทูร์บิญองที่ติดตั้งเข็มวินาทีมาให้เหนือกรงทูร์บิญอง และมาพร้อมฟังก์ชัน ‘Perpetual Calendar’ แล้ว ยังนำวัสดุสมัยใหม่อย่าง ‘Silicium’ (ซิลิเซียม – หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ ‘ซิลิกอน’) มาสร้างเป็นจักรเหล็กและแองเคอร์ด้วย ซึ่งเมื่อมองผ่านกรงทูร์บิญองสีทองเข้าไปก็จะสามารถมองเห็นชิ้นส่วนสีม่วงเหล่านี้ได้
ที่ทางแบรนด์สามารถผลิตนาฬิกาทูร์บิญองได้ในราคาย่อมเยาเช่นนี้ มาจากการที่นักประดิษฐ์นาฬิกาของแบรนด์สามารถคิดหาวิธีสร้างจักรกลทูร์บิญองที่ประหยัดทั้งเวลาการผลิตและลดความผิดพลาดของการสร้างชิ้นงานในกระบวนการผลิตขึ้นมาได้ ซึ่งก็ได้จดสิทธิบัตรวิธีการนี้ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยวิธีที่ใช้คือสร้างส่วนประกอบของกรงทูร์บิญองซึ่งมีจำนวนชิ้นส่วนทั้งหมด 80 ชิ้น ด้วยเครื่อง CNC (ซีเอ็นซี) ที่มีความแม่นยำสูงถึงระดับ 1-2 ไมครอน หรือเท่ากับ 0.001-0.002 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่อยู่ในโรงงานของแบรนด์เอง นอกจากความถูกต้องแม่นยำของชิ้นงานและความรวดเร็วในการผลิตแล้ว ระบบ ‘Smart Screw’ (สมาร์ท สกรู) ซึ่งเป็นลักษณะการยึดสกรูบนขอบด้านนอกของกรงทูร์บิญองเพื่อเฉลี่ยน้ำหนัก และสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบให้กับกรง ซึ่งทางแบรนด์เป็นผู้คิดค้นขึ้น ก็ส่งผลให้การประกอบจักรกลทูร์บิญองกระทำได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และง่ายต่อการจัดสมดุลอันนำมาซึ่งการทำงานอย่างมีเสถียรภาพเป็นที่สุด
Classic Perpetual Calendar Tourbillon Manufacture เวอร์ชั่นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มนี้เป็นนาฬิกา ‘Limited Edition’ (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) จากกลุ่มคอลเลกชั่น Classic ของ Frédérique Constant ที่กำหนดจำนวนการผลิตไว้เพียง 88 เรือนสำหรับ Ref.FC-975N4H6 ตัวเรือนสเตนเลสสตีล ซึ่งวางราคาไว้ที่ 880,000 บาท และแค่ 30 เรือนสำหรับ Ref.FC-975N4H9 ตัวเรือนทองกุหลาบ 18 K ซึ่งตั้งราคาไว้ 1,075,500 บาท
