by: ‘Mr.Big’
ปี 2013 นั้น Hamilton (ฮามิลตัน) ได้เขย่าแวดวงเครื่องบอกเวลาอเมริกัน ด้วยการสร้างสรรค์คอลเลกชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Face 2 Face (เฟซ ทู เฟซ) ซึ่งเป็นการปฏิวัติงานดีไซน์แบบดั้งเดิมทั้งหมด โดยจับเอาไลน์คอลเลกชั่นร่วมสมัยอย่าง Jazzmaster (แจ๊สมาสเตอร์) มาปรับปรุงการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ตัวเรือนเป็นทรงรีขนาดใหญ่ เพื่อบรรจุชุดหน้าปัดคู่ที่ด้านหน้าทำหน้าที่บอกเวลาแบบปกติ ส่วนอีกฝั่งเป็นการวางกลับหลังเพื่อแสดงเวลาพร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟไว้ โดยตัวเรือนดังกล่าวได้ติดตั้งชุดสลักที่ทำให้หมุนพลิกกลับได้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้รักนาฬิกาที่ชื่นชอบสไตล์ใหม่ๆ ไม่ซ้ำเดิม กระทั่งอีก 3 ปีต่อมา ก็ได้ออกนาฬิการูปลักษณ์ดังกล่าวในซีรีย์ที่ 2 ซึ่งก็ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ให้ลงตัวและซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการจับเอามาตรวัดที่หลากหลายผสานเข้าไว้อย่างน่าพิศวง โดยยังคงเอกลักษณ์ตัวเรือนทรงรีที่สามารถหมุนพลิกกลับได้ไว้เช่นเดิม จากวันนั้นถึงวันนี้ ห่างหายไปเป็นเวลาถึง 7 ปี กับวาระครบรอบ 1 ทศวรรษ แห่งการถือกำเนิดของคอลเลกชั่นดังกล่าว ก็ได้เวลาที่จะกลับมาเปิดตัวอีกครั้งในซีรีย์ที่ 3 ซึ่งต้องบอกว่ามาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามลงตัว และเปลี่ยนไปจาก 2 รุ่นก่อนมาก ขอแนะนำให้ท่านพบกับความงามอันน่าพิศวงจาก Jazzmaster Face 2 Face III (แจ๊สมาสเตอร์ เฟซ ทู เฟซ ธรี)
Jazzmaster Face 2 Face ซีรีย์ที่ 3 เผยโฉมในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง นั่นคือการใช้ตัวเรือนทรงกลมที่ดูร่วมสมัยแทนทรงรีแบบ 2 รุ่นที่ผ่านมา แต่ยังคงคอนเซปต์ที่สามารถพลิกกลับหน้า-หลังได้ โดยมีแกนยึดอยู่บริเวณตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ผลิตจากสเตนเลสสตีลทั้งชั้นนอกและชั้นใน กับขนาด 44.0 มิลลิเมตร และมีความหนาถึง 17.25 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 50 เมตร กรุด้วยคริสตัลแซพไฟร์ทั้ง 2 ฝั่งหน้าปัด โดยด้านที่เป็นหน้าปัดหลักได้รับการตกแต่งในสไตล์ทันสมัย ด้วยโครงสร้างหลายชั้นในโทนสีเงินสลับเทา เผยให้เห็นตัวเลขจากจานดิสก์แสดงวันที่ที่กำกับควบคู่ไปกับช่องหน้าต่างแสดงวันบริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมด้วยการบอกเวลาแบบ 2 เข็มครึ่ง ซึ่งแยกวินาทีมาไว้บนหน้าปัดย่อยตำแหน่ง 9 นาฬิกา ควบคู่ไปกับฟังก์ชันโครโนกราฟที่แสดงผ่านเข็มวินาทีร่วมกับหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกา ซึ่งแสดงค่าจับเวลาหน่วย 30 นาที และ 12 ชั่วโมงตามลำดับ
และเมื่อพลิกมาอีกด้านหนึ่งก็จะพบกับความงดงามของจักรกลและโรเตอร์ที่กวัดแกว่งขึ้นลาน โดยที่แกนของโรเตอร์ได้รับการติดตั้งเข็มยาวสีน้ำเงินสำหรับแสดงค่าความเร็ว ‘Tachymeter’ (ทาคีมิเตอร์) และค่าชีพจร ‘Pulsometer’ (พัลโซมิเตอร์) แบบวนทวนเข็ม บนวงแหวนสเกลที่ติดตั้งอยู่บริเวณขอบในสีแบบทูโทนเพื่อการอ่านค่าที่ชัดเจน สำหรับจักรกลที่ทำงานอยู่ในนาฬิการุ่นนี้คือกลไกออโตเมติกโครโนกราฟ Cal.H-41 ที่มาพร้อมกำลังในการสำรองลาน 60 ชั่วโมง ซึ่งถูกปรับแต่งมาเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ และเพื่อความงามที่สมบูรณ์แบบในสไตล์คลาสสิกร่วมสมัย จึงประกอบเข้ากับสายหนังวัวสีน้ำตาลไล่เฉดที่ดูคลาสสิก และเพิ่มสีสันด้วยการเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีน้ำเงิน พร้อมตัวล็อกแบบบานพับที่ผลิตจากสเตนเลสสตีล
Jazzmaster Face 2 Face III เป็นการผลิตแบบจำกัดจำนวนเช่นเดียวกับเจเนอเรชั่นก่อนๆ แต่ลดจำนวนลงมาอยู่ที่ 999 เรือน ในราคาที่ตั้งเอาไว้ให้เป็นเจ้าของที่ 2,995 ฟรังก์สวิส หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 110,000 บาท