by: ‘Mr.Big’
หากติดตามข่าวคราวการประมูลนาฬิกา ‘Only Watch 2023’ (โอนลี วอทช์) ซึ่งเป็นงานประมูลการกุศลเพื่อหารายได้สมทบทุนโครงการวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ ‘Duchenne Muscular Dystrophy’ (ดูแชนน์ มัสคิวลาร์ ดีสโทรฟี) หรือ ‘DMD’ ซึ่งเชิญชวนแบรนด์นาฬิกาต่างๆ ให้ส่งนาฬิการุ่นพิเศษที่เป็นหนึ่งเดียวในโลกมาประมูลในงาน ก็จะทราบกันแล้วว่างานประมูลดังกล่าวได้ถูกเลื่อนการจัดออกไปเป็นปีหน้า แต่ก่อนหน้านั้น บรรดาแบรนด์ชั้นนำที่เข้าร่วมงาน ต่างทยอยเปิดตัวเรือนเวลาสู่สายตาสาธารณชนมาตั้งแต่ช่วงกลางปีแล้ว ซึ่งในงานประมูลครั้งนี้แบรนด์มหาชนที่เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องอย่าง Hublot (อูโบลท์) ก็ได้เผยโฉม MP-15 Takashi Murakami Only Watch Sapphire (เอ็มพีฟิฟทีน ทาคาชิ มูราคามิ โอนลี วอทช์ แซพไฟร์) เรือนเวลาเพียงหนึ่งเดียวสำหรับการประมูลออกมาเป็นที่เรียบร้อย อันเป็นผลงานการสร้างสรรค์ร่วมกันกับ Takashi Murakami ศิลปินป๊อบอาร์ตระดับโลก โดยโชว์โฉมในรูปลักษณ์อันโดดเด่นของตัวเรือนแซพไฟร์ที่รังสรรค์เป็นรูปดอกไม้ ‘Murakami Flower’ (มูราคามิ เฟลาเวอร์) ประดับด้วยอัญมณีสีสันสดใสบนกลีบดอกและหลักชั่วโมงเป็นลายรุ้ง พร้อมอวดโฉมจักรกลทูร์บิญองเอาไว้ใจกลางประดุจดังเกสร จนเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก
แม้การประมูล ‘Only Watch 2023’ จะยังไม่เกิดขึ้นเพราะถูกเลื่อนออกไป แต่วันนี้ Hublot ก็ได้นำรูปแบบดังกล่าวมาปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์เป็นเรือนเวลารุ่นพิเศษ และเปิดโอกาสให้นักสะสมได้จับจองเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องประมูลกันด้วยจำนวนการผลิต 50 เรือน ในชื่อรุ่น MP-15 Takashi Murakami Tourbillon Sapphire (เอ็มพีฟิฟทีน ทาคาชิ มูราคามิ ทูร์บิญอง แซพไฟร์) โดยนำเสนอในตัวเรือนทรงดอกไม้ 12 กลีบ ‘Murakami Flower’ แบบ 3 มิติ สร้างสรรค์ขึ้นจากคริสตัลแซพไฟร์เหมือนกับเรือนที่ผลิตสำหรับงานประมูล ‘Only Watch 2023’ แต่ไม่ได้มีการประดับอัญมณีบนกลีบดอก ดังนั้นจึงไม่มีการติดตั้งหนามเตยโลหะสำหรับยึดอัญมณี ตัวเรือนของรุ่นนี้จึงเป็นคริสตัลแซพไฟร์แบบเพียวๆ ที่ขัดเงาจนใสกิ๊ง มองทะลุเห็นถึงจักรกลที่ติดตั้งไว้ภายในทั้งด้านหน้า ด้านหลัง รวมถึงด้านข้างแบบ 100% พร้อมด้วยความแข็งในระดับสูงจึงทนต่อการกระแทกและรอยขูดขีดได้อย่างดีเยี่ยม กับดีไซน์แบบไร้ขาสาย ที่ขนาด 42.0 มิลลิเมตร หนา 13.4 มิลลิเมตร พร้อมด้วยเม็ดมะยมทรงฟักทองที่ผลิตขึ้นจากคริสตัลแซพไฟร์ใสเช่นเดียวกัน ส่วนการกันน้ำทำได้ 30 เมตร
ใจกลางของตัวเรือนกรุคริสตัลแซพไฟโค้งร์นูน ตกแต่งด้วยตาและปากยิ้มกว้างรูปแบบเดียวกับ ‘Murakami Flower’ เบื้องล่างเผยเป็นแผ่นหน้าปัดเรซิ่นที่ผ่านการสังเคราะห์ให้มีความโปร่งใส เผยให้เห็นความตระการตาของจักรกลท ‘Centre Tourbillon’ (เซ็นเตอร์ ทูร์บิญอง) แบบลอยตัวขนาดใหญ่ โดดเด่นอยู่ใจกลาง โดยติดตั้งให้มีเข็มขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกับชุดเกียร์ของแกนเข็มที่อยู่ถัดลงไปจากชุดกรงทูร์บิญอง เพื่อแสดงเวลาเป็นนาทีและชั่วโมง ซึ่งจะชี้ไปยังหลักชั่วโมงทรงเลี่ยมแท่งเคลือบสีดำที่ติดตั้งอยู่บนวงแหวน ‘Chapter Ring’ (แชปเตอร์ ริง) และเคลือบสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) สีขาวเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยสำหรับการดูเวลาในที่มืด
จักรกลที่บรรจุอยู่ในนาฬิกาเรือนนี้ เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน MP-15 Takashi Murakami Only Watch Sapphire อันเป็นกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ไขลานทูร์บิญอง Cal.HUB9015 อันประกอบขึ้นด้วยมือจากชิ้นส่วน 236 ชิ้น ความถี่การทำงาน 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง และมอบกำลังสำรองลานสูงถึง 150 ชั่วโมง อันเป็นผลมาจากการติดตั้งตลับลาน 2 ชุด ที่เผยให้เห็นทางด้านหลัง แต่ทว่ากว่าจะขึ้นลานได้เต็มความจุก็จำเป็นต้องหมุนเม็ดมะยมถึง 100 รอบ ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไปสักนิด เพื่อขจัดปัญหานี้ Hublot จึงติดตั้งชุดขึ้นลานอิเล็กทรอนิกส์ผ่านสายชาร์จแบบ USB ได้อีกทางหนึ่งผลงานสวยใสนี้ประกอบมากับสายยางสีขาวโปร่งแสง พร้อมตัวล็อกสายชนิดบานพับที่ผลิตจากไทเทเนียมสลับคริสตัลแซพไฟร์ เพื่อคงคอนเซ็ปต์ความใสอย่างถึงที่สุด จัดมาพร้อมกล่องบรรจุแบบใสทั้งใบ ตกแต่งด้วยลายดอกไม้ ‘Murakami Flower’ พร้อมชื่อแบรนด์ Hublot และ Murakami วางคู่กัน โดยตั้งราคาให้เป็นเจ้าของกันที่ 300,000 ฟรังก์สวิส หรือราว 12 ล้านบาท เลยทีเดียว
