by: ‘Mr.Big’
มีประโยคหนึ่งซึ่งมักจะกล่าวกันอยู่เสมอ “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว” เฉกเช่นเดียวกับคอลเลกชั่น All Dial (ออล ไดอัล) จาก Mido (มิโด) ที่ในปี 2002 ได้นำความประทับใจในสถาปัตยกรรมที่สวยงามของโคลอสเซียม หนึ่งในโบราณสถานที่เป็นมรดกโลกสำคัญ มาขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลกชั่น ซึ่งต่อมารูปแบบดังกล่าวได้กลายเป็นที่นิยม กลายเป็นดีไซน์ไอคอนิกอันเป็นที่จดจำของผู้คนมาจนปัจจุบัน และนั่นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด ‘Inspired by Architecture’ ในการที่จะนำสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบโดดเด่นจากทั่วโลก มาใช้เป็นหลักในการออกแบบนาฬิกาคอลเลกชั่นต่างๆ และในปี 2022 ที่เป็นวาระครบรอบ 2 ทศวรรษ ของแนวคิดดังกล่าว Mido จึงขอเฉลิมฉลองด้วยเรือนเวลา All Dial รุ่นพิเศษ ที่แสดงความโดดเด่นของรูปแบบดีไซน์จากสถาปัตยกรรมโคลอสเซียม นั่นก็คือ All Dial 20th Anniversary Inspired by Architecture Limited Edition (ออล ไดอัล เดอะ ทเวนตีธ์ แอนนิเวอร์ซารี อินสไปร์ด บาย อาร์คิเทกเจอร์ ลิมิเต็ด เอดิชั่น)
จากรูปทรงโครงสร้างอารีน่า 3 ชั้นของโคลอสเซียม นำมาสู่แนวคิดในการออกแบบตัวเรือนและหน้าปัดของ All Dial ที่สะท้อนออกมาอย่างเด่นชัด โดยตัวเรือนได้รับการสร้างสรรค์ในดีไซน์ที่นำเสนอตามโครงสร้างของโคลอสเซียม นั่นคือสัดส่วนด้านข้างที่สูง มีฐานกว้าง และส่วนยอดที่สอบลงเล็กน้อย พร้อมขอบตัวเรือนบางเฉียบ ทั้งหมดสะท้อนถึงความโดดเด่นในโครงสร้างของโคลอสเซียม กับขนาดตัวเรือน 42.0 มิลลิเมตร หนา 10.1 มิลลิเมตร ผลิตจากสเตนเลสสตีล กันน้ำได้ 100 เมตร
หน้าปัดโดดเด่นด้วยสีเทาเข้ม โดยที่ส่วนกลางเป็นพื้นผิวแบบเนื้อทราย ส่วนขอบหน้าปัดตกแต่งด้วยลายเส้นขีดถี่และเส้นวงกลมซ้อนกัน 3 เส้น ตามแนวลาดเอียงแบบแอ่งกระทะ อันเป็นรูปแบบที่มาจากสแตนด์ที่นั่งสำหรับรับชมภายในโคลอสเซียมเมื่อมองจากมุมสูง หลักชั่วโมงทั้ง 12 ถูกออกแบบให้ด้านขั้วมีความโค้ง แทรกเข้าไปในลายเส้นวงกลม ชวนให้นึกถึงซุ้มประตูที่เปิดให้นักสู้เข้าสู่สนามประลองในโคลอสเซียม ส่วนฟังก์ชันแสดงเวลานำเสนอในรูปแบบ 3 เข็ม ด้วยเข็มทรงเหลี่ยมที่ให้ความรู้สึกแบบโมเดิร์น พร้อมระบุวันและวันที่ผ่านช่องหน้าต่างยาวที่พาดต่อจากหลักชั่วโมงตำแหน่ง 3 นาฬิกา และเคลือบฉาบด้วยสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova®’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดูเวลาในที่มืด
สำหรับการทำงาน เป็นการขับเคลื่อนด้วยกลไกออโตเมติก Cal.80 Si ที่ได้รับการปรับแต่งเครื่องด้วยการใช้บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับการทำงาน และทำให้การรบกวนของพลังงานสนามแม่เหล็กไม่เป็นผล จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความเที่ยงตรงถึงระดับโครโนมิเตอร์ และผ่านการรับรองจากสถาบัน COSC มีอัตราความถี่ในการทำงาน ความถี่ 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง ทับทิม 25 ชิ้น และสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง แต่ไม่เปิดโอกาสให้มองเห็นได้เพราะใช้ฝาหลังชนิดแผ่นทึบที่สลักเป็นรูปอาคารโคลอสเซียมครึ่งส่วน ประกอบกับสายสเตนเลสสตีลดีไซน์แบบ ‘Integrated’ (อินทีเกรเต็ด)
เรือนเวลาแห่งแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสถาปัตยกรรมโคลอสเซียมเรือนนี้ ผลิตมาให้เป็นเจ้าของกันแค่ 2,022 เรือน อันเป็นตัวเลขปีที่ครบ 2 ทศวรรษ บรรจุในกล่องที่ออกแบบเป็นพิเศษ พร้อมเหรียญที่สลักเป็นรูปโคลอสเซียมแบบเดียวกับที่ปรากฏบนฝาหลัง แปะป้ายราคาสำหรับประเทศไทยไว้ที่ 49,200 บาท เท่านั้น
