by: ‘TomyTom’
Montblanc (มงต์บลอง) เผยโฉมนาฬิกา ‘Limited Edition’ (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) เอาใจชาวจีนด้วยนาฬิกาดำน้ำ 1858 Iced Sea Automatic Date (เอจทีนฟิฟตีเอจธ์ ไอซ์ด ซี ออโตเมติก เดท) รุ่นพิเศษที่หยิบเอาภูเขาที่สูงที่สุดในมณฑลเสฉวนของประเทศจีน ‘Minya Konka’ (มินย่า คอนกา) หรือ ‘ภูเขากงกา’ ที่เรียกขานกันว่า ‘ราชาแห่งเทือกเขาเสฉวน’ มาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง แล้วให้ชื่อนาฬิกาว่า 1858 Iced Sea Minya Konka Limited Edition โดยกำหนดจำนวนการผลิตเอาไว้ที่ตัวเลข 285 เรือน ซึ่งมีที่มาจากตัวเลข 2,850 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงของธารน้ำแข็งของภูเขา ‘Minya Konka’ แต่ตัดเลข 0 ตัวหลังสุดออกไป
งานตกแต่งนี้กระทำบนพื้นฐานของ 1858 Iced Sea Automatic Date ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำคอลเลกชั่นแรกของ Montblanc ที่เพิ่งแนะนำออกสู่ตลาดใน ค.ศ. 2022 โดยนำลักษณะของภูเขา ‘Minya Konka’ ในประเทศจีนมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง ซึ่งมอบอารมณ์ที่ต่างไปจากธารน้ำแข็งของทะเลน้ำแข็งหรือ ‘Mer de Glace’ (แมร์ เดอ กลาซ) บนเทือกเขา ‘Mont-Blanc’ (มงต์บลอง) ในโทนสีน้ำเงิน ดำ หรือเขียว ที่ใช้ตกแต่งในเอดิชั่นเปิดตัวอย่างชัดเจน เพราะหนนี้มากับหน้าปัดสีแดงที่ชวนให้นึกถึงธงชาติจีนอยู่ไม่น้อย บนพื้นผิวลายธารน้ำแข็ง พร้อมหลักชั่วโมงและเข็มเคลือบโรเดียม ร่วมด้วยตราประจำคอลเลกชั่น ‘1858 Iced Sea’ พิมพ์สีขาวเหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตราของโรงงาน ‘Minerva’ (มิเนอร์วา) กับตรา Montblanc แบบสมัยก่อนที่ใต้ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนสเกลนาที-วินาทีเป็นแบบรางรถไฟพิมพ์ด้วยสีขาว ขณะที่หน้าต่างสำหรับอ่านค่าวันที่ด้วยเลขสีดำบนจานสีขาวถูกล้อมด้วยกรอบเคลือบโรเดียม และบนฝาหลังก็ทำการสลักสีแบบ 3 มิติ เป็นภาพภูเขา ‘Minya Konka’ ในบรรยากาศช่วงตะวันตกดิน อันเป็นอารมณ์ที่สอดคล้องต้องกับลายและผิวสีแดงของหน้าปัด ซึ่งการสลักนี้กระทำด้วยเทคนิคพิเศษ ใช้เลเซอร์สร้างภาพลายนูนแบบ 3 มิติ บนผิวโลหะ นำมาซึ่งมิติความลึกและความสมจริงด้วยความเปรียบต่างที่เกิดจากผิวด้านและผิวเงา ทั้งยังมีการสลักข้อความเป็นภาษาจีนว่า ‘中国四川 贡嘎瑞霞’ ซึ่งแปลได้ว่า ‘กง กา รุ่ย เซี่ย เสฉวน ประเทศจีน’ เอาไว้บริเวณส่วนริม ต่อจากข้อความสลัก ‘Limited Edition’ และ ‘1 of 285’ เพื่อบอกว่าเป็นหนึ่งใน 285 เรือน ที่ผลิตขึ้นมา แต่ไม่ได้ระบุหมายเลขลำดับกำกับไว้
ขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลชนิดหมุนได้ทิศทางเดียวติดตั้งแผ่นวงแหวนเซรามิก 2 สี ที่แบ่งพื้นที่ในระยะ 15 นาทีแรก เป็นสีเทาเข้ม และมีพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นสีดำ ขณะที่สเกลใช้เป็นสีขาวเช่นเดียวกัน ส่วนตัวเรือนซึ่งเป็นสเตนเลสสตีล ขนาด 41.0 มิลลิเมตร ผิวขัดเงาสลับปัดลายซาติน ผนึกกระจกหน้าปัดคริสคัลแซพไฟร์ทรงกล่อง เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ฝั่ง และใช้ฝาหลังเป็นไทเทเนียม รวมความหนาได้ 12.9 มิลลิเมตร พร้อมเม็ดมะยมชนิดขันเกลียวนั้น นอกจากจะติดตั้งมากับสายสเตนเลสสตีลพร้อมตัวล็อกแบบบานพับที่มีระบบปรับขยายระดับความยาวติดตั้งมาด้วยแล้ว ยังมอบสายยางแบบ 2 สี ซึ่งมีผิวด้านหน้าเป็นสีดำขลิบขอบแดง และมีผิวด้านหลังเป็นสีแดงพร้อมตัวล็อกแบบบานพับที่มีระบบปรับขยายเช่นกัน มาให้สลับเปลี่ยนใช้งานอีกเส้นหนึ่ง โดยการสลับเปลี่ยนนั้นกระทำได้ไม่ยากด้วยระบบติดตั้งสายที่ออกแบบให้ทำการถอดและใส่สายได้อย่างง่ายดาย
และเมื่อเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ 1858 Iced Sea Automatic Date ก็ย่อมต้องมากับคุณสมบัติตามมาตรฐานสากลสำหรับนาฬิกาดำน้ำ ISO 6425 ด้วย การอ่านค่าใต้น้ำจึงชัดเจนด้วยสารเรืองแสงที่ Montblanc ใช้ ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) สีขาวที่เปล่งแสงเป็นสีฟ้า บนเข็มทรงคลาสสิกทั้ง 3 หลักชั่วโมงที่เป็นแบบแท่งเหลี่ยม ร่วมกับเลขอารบิกอีก 3 ตำแหน่ง และจุดตำแหน่ง 12 นาฬิกา บนขอบตัวเรือน และนาฬิกาแต่ละเรือนยังต้องผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Montblanc ทั้งในเรื่องการต้านทานต่อแรงสะเทือน สนามแม่เหล็ก อุณหภูมิ และที่สำคัญก็คือการกันน้ำ ซึ่งต้องสามารถต้านทานได้ถึง 30 บาร์ หรือเทียบเท่าระดับความลึก 300 เมตร
ขุมกำลังสำหรับการบอกเวลาแบบ 3 เข็ม พร้อมฟังก์ชันวันที่ของเอดิชั่น ‘Minya Konka’ ยังคงเป็นเช่นเดียวกับเวอร์ชั่นมาตรฐานของ 1858 Iced Sea Automatic Date ที่ออกมาก่อน นั่นก็คือ Cal.MB 24.17 ซึ่งเนื้อแท้แล้วเป็นกลไกอัตโนมัติ ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ของ Sellita (เซลลิตา) Cal.SW200 จำนวนทับทิม 26 เม็ด สำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง
นอกจากนี้ นาฬิกาผลิตจำนวนจำกัด 285 เรือน เอดิชั่นนี้ยังมาพร้อมกระเป๋าใส่นาฬิกาขนาดพกพา ซึ่งทำจากวัสดุรีไซเคิลให้พกติดตัวไปใช้งานได้อย่างสะดวกด้วย แต่หากสนใจอยากเป็นเจ้าของก็ต้องสอบถามบูติก Montblanc ดูว่ามีจำหน่ายหรือไม่ เพราะทางแบรนด์แจ้งว่าจะวางจำหน่ายเฉพาะบางแห่งเท่านั้น สนนราคาตั้งไว้ที่ 5,500 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 139,000 บาท ซึ่งสูงกว่าเวอร์ชั่นมาตรฐานอยู่ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว
