UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles ROYAL OAK OFFSHORE CHRONOGRAPH BLACK CERAMIC - เซรามิกดำสลับสี

ROYAL OAK OFFSHORE CHRONOGRAPH BLACK CERAMIC – เซรามิกดำสลับสี

by: ‘TomyTom’

 

Audemars Piguet (โอเดอมาร์ส ปิเกต์) เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับตระกูลนาฬิกาเรือนโต Royal Oak Offshore Selfwinding Chronograph (รอยัล โอ๊ก ออฟชอร์ เซลฟ์ไวน์ดิง โครโนกราฟ) กันอีกแล้ว โดยคราวนี้เป็นการผสมผสานกันของวัสดุและสีสันที่แตกต่างจนได้มาซึ่งความลงตัว 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน บนพื้นฐานของตัวเรือนเซรามิกสีดำขนาด 44.0 มิลลิเมตร หนา 14.4 มิลลิเมตร ผนึกกระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน กันน้ำได้ 100 เมตร ดีไซน์สุดบึกบึน

 

ความหลากหลายของส่วนผสมดูจะเป็นคอนเซ็ปต์หลักที่ถ่ายทอดผ่านทุกองค์ประกอบของ 3 เวอร์ชั่นนี้ เริ่มจากงานขัดแต่งบนพื้นผิวของชิ้นส่วนตัวเรือนที่มีทั้งการปัดลาย การขัดเงา และการทำผิวไมโครบลาสต์ ถัดมาเป็นเรื่องของสีสันที่แต่ละเวอร์ชั่นผสมผสานอย่างหลากหลายระหว่างโทนสีที่ชัดเจน เช่น สีเขียวหรือสีน้ำเงินเข้ากับสีดำของตัวเรือนเซรามิกและสีโลหะของทองชมพู 18K หรือโลหะสีเงิน ตลอดจนสีขาวหรือสีดำในรายละเอียดบนหน้าปัด รวมไปถึงสีของสายยาง

 

ทั้ง 3 เวอร์ชั่นใช้ตัวเรือนเซรามิกดำและมีชิ้นเม็ดมะยมกับปุ่มกดเป็นเซรามิกเช่นกัน แต่บนยอดเม็ดมะยมจะฝังชิ้นโลหะสีเงินหรือทองชมพูไว้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นอย่างมีชั้นเชิง พื้นหน้าปัดสลักเป็นลายตารางนูนตาใหญ่ที่เรียกว่า ‘Méga Tapisserie’ (เมกา ทาพิสเซอรีย์) ทำสีไล่เฉดในอารมณ์รมควันมืดบริเวณขอบวง พร้อมติดตั้งหลักชั่วโมงเลขอารบิกและแท่งขนาดใหญ่เคลือบสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) และใช้พื้นสีเงินโรเดียมพิมพ์สเกลสีดำกับวงหน้าปัดจับเวลาขนาดเล็กทั้ง 2 วง ขณะที่วงวินาทีขนาดเล็กจะสลับเป็นพื้นสีดำพิมพ์สเกลสีขาว ล้อมขอบหน้าปัดด้วยสเกล ‘Tachymeter’ (ทาคีมิเตอร์) และใช้สายยางสีเดียวกัน แต่แต่งพื้นผิวด้วยรูปแบบใหม่ลายคล้ายเนื้อผ้า ล็อกด้วยหัวเข็มขัด

 

ขุมพลังที่บรรจุอยู่ภายในเป็นเครื่องอัตโนมัติ Cal.3126/3840 ฟังก์ชันโครโนกราฟ จับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชันวันที่ สำรองพลังงานได้สูงสุด 50 ชั่วโมง ซึ่งพื้นฐานคือ Cal.3126 กลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ความถี่การทำงาน 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง ที่นำโมดูลโครโนกราฟระบบแคมของ ‘Dubois-Dépraz’ (ดูบัวส์-เดปราซ์) ซึ่ง AP ให้รหัสว่า 3840 มาติดตั้งเพื่มลงไป ทำให้มีจำนวนชิ้นส่วนรวมถึง 365 ชิ้น และมีจำนวนทับทิมถึง 59 ชิ้น ทาง AP เปิดโอกาสให้มองเห็นโรเตอร์ทอง 22K เคลือบดำฉลุโปร่ง และชิ้นส่วนกลไกที่ตกแต่งมาอย่างสวยงามได้จากกระจกแซพไฟร์คริสตัลที่กรุอยู่กับขอบฝาหลังขนาดใหญ่

 

ความต่างของ 3 เวอร์ชั่นนี้อยู่ที่วัสดุหรือสีสันที่ใช้กับขอบตัวเรือน ชิ้นแถบปกป้องปุ่มกด หน้าปัด และสาย โดยเวอร์ชั่นสีเขียวกับเวอร์ชั่นสีน้ำเงินจะใช้เซรามิกสีเขียวหรือสีน้ำเงินกับขอบตัวเรือน เม็ดมะยม กับปุ่มกด และใช้สีเขียวหรือสีน้ำเงินกับพื้นหน้าปัด เข็มจับเวลาชั่วโมงกับนาที และสาย โดยเวอร์ชั่นสีเขียวจะใช้เข็มกลาง ชิ้นหลักชั่วโมง เส้นวงแหวนรอบวงหน้าปัดขนาดเล็กและรอบกรอบวงหน้าต่างวันที่ โลโก้ AP และชิ้นโลหะบนเม็ดมะยมเป็นทองชมพู ส่วนแถบปกป้องปุ่มกดของ 2 เวอร์ชั่นนี้จะเป็นไทเทเนียมผิวไมโครบลาสต์ และใช้หัวเข็มขัดรัดสายเป็นไทเทเนียมเช่นเดียวกัน ขณะที่เวอร์ชั่นสีน้ำเงินจะเป็นทองขาว ส่วนเวอร์ชั่นทองจะใช้ทองชมพู 18K เป็นขอบตัวเรือน ชิ้นแถบปกป้องปุ่มกด กับชิ้นข้อเชื่อมสาย และชิ้นปลายเม็ดมะยม ร่วมด้วยสีทองชมพูของเข็มกลาง ชิ้นหลักชั่วโมง เส้นวงแหวนรอบวงหน้าปัดขนาดเล็ก และโลโก้ AP บนหน้าปัดสีเทาล้อมด้วยขอบหน้าปัดสีเงินพิมพ์สเกลสีดำ ต่างจากวงขอบสีดำพิมพ์สเกลสีขาวของเวอร์ชั่นสีเขียวและสีน้ำเงิน ส่วนปุ่มกดและเม็ดมะยมเป็นเซรามิกดำ ขณะที่สายจะใช้เป็นสีเทาเข้ม ล็อกด้วยหัวเข็มขัดทองชมพู 18K

 

ราคาที่ตั้งไว้สำหรับ Royal Oak Offshore Selfwinding Chrongraph ตัวเรือนเซรามิกดำ 3 เวอร์ชั่นใหม่นี้ อยู่ที่ 34,900 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านบาท สำหรับเวอร์ชั่นสีน้ำเงิน Ref.26405CE.OO.A030CA.01 และเวอร์ชั่นสีเขียว Ref.26405CE.OO.A056CA.01 ส่วนเวอร์ชั่นทองชมพู Ref.26405NR.OO.A002CA.01 จะอยู่ที่ 42,900 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.42 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เวอร์ชั่นจะวางจำหน่ายในฐานะ ‘Boutique Exclusive’ (บูติก เอ็กซ์คลูสีฟ) ซึ่งหมายความว่าจะมีจำหน่ายเฉพาะที่บูติกของ Audemars Piguet เท่านั้น

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT