by: ‘TomyTom’
ประเภทนาฬิกาสำหรับการใช้งานภาคสนามที่เรียกกันว่า ‘Field Watch’ (ฟีลด์ วอทช์) นั้น คุณสมบัติและคุณลักษณะสำคัญที่พึงมีก็คือ การอ่านค่าเวลาได้ง่าย รวดเร็ว ชัดเจน ความทนทานต่อการใช้งานในกิจกรรมเอาท์ดอร์ ความทนทานและความแม่นยำไว้ใจได้ของกลไก และมีเพียงเฉพาะสิ่งจำเป็นจริงๆ เท่านั้นที่ปรากฏอยู่บนทุกองค์ประกอบของนาฬิกา อีกทั้งต้องมีราคาที่ย่อมเยา ไม่แพงจนเกินสถานะการเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะอ้างอิงมาจากนาฬิกาในยุคอดีตที่ผลิตป้อนให้กับกองทัพเพื่อเป็นอุปกรณ์บอกเวลาคู่ข้อมือของทหารกันเป็นหลัก และนาฬิกาประเภทนี้จากตระกูล Seiko 5 Sports (ไซโก ไฟว์ สปอร์ตส) ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากแต่ช่วงหลังมานี้ทาง Seiko นำเสนอนาฬิกา ‘Field Watch’ ด้วย 5 Sports Field Sports Style (ไฟว์ สปอร์ตส ฟีลด์ สปอร์ตส สไตล์) ในขนาดตัวเรือนราว 39.4 มิลลิเมตร ซึ่งจัดว่าค่อนข้างใหญ่อยู่สักหน่อย จึงออกจะขัดกับความรู้สึกที่เคยเป็นมาว่านาฬิกาประเภทนี้ควรจะมีขนาดกะทัดรัดเพื่อไม่ให้เกะกะบนข้อมือ เสี่ยงต่อการกระทบกระแทก และมีน้ำหนักมากเกินไป อันจะก่อความไม่สะดวกต่อการสวมใส่ขณะทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ทั้งหลาย ในที่สุด Seiko ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ และได้ออกนาฬิกาประเภทนี้ในขนาดที่ย่อมลงสู่ตลาด โดยเรียกว่า Seiko 5 Sports Mid-Field Collection (ไซโก ไฟว์ สปอร์ตส มิดฟีลด์ คอลเลกชั่น)
Seiko 5 Sports Mid-Field Collection มากับตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 36.4 มิลลิเมตร กับความหนา 12.5 มิลลิเมตร และมีระยะจากขาตัวเรือนด้านบนถึงขาตัวเรือนด้านล่างอยู่ที่ 44.4 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดกะทัดรัดที่ให้อารมณ์นาฬิกาทหารแบบวินเทจได้ดี ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาด 39.4 มิลลิเมตร หนา 13.2 มิลลิเมตร และระยะขาตัวเรือน 48.1 มิลลิเมตร ของรุ่น 5 Sports Field Sports Style แล้วจะเห็นได้ว่าย่อส่วนลงมามากพอดูเลยทีเดียว ขณะที่รูปลักษณ์หน้าตาโดยรวมนั้นถอดแบบมาทั้งหมด ทั้งรูปทรงของตัวเรือน ผิวปัดลาย เม็ดมะยมขนาดใหญ่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ที่ไร้แนวบ่าปกป้องใดๆ ฝาหลังชนิดขันเกลียวกรุกระจกใส กระจกหน้าปัดฮาร์ดเล็กซ์คริสตัล ระดับการกันน้ำถึงความลึก 100 เมตร ตลอดจนดีไซน์ของสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 แถว ผิวปัดลายที่มีแนวข้างสอบลงสไตล์นาฬิกาสปอร์ตยุคก่อน และด้วยขนาดเท่านี้ก็เท่ากับว่ามันเป็นตัวตายตัวแทนของ Seiko 5 สไตล์ทหาร ตระกูล SNK ขนาด 37.0 มิลลิเมตร ที่เลิกผลิตไปแล้วได้เป็นอย่างดี
Mid-Field Collection เปิดตัวมาพร้อมกัน 5 รูปแบบ คือ SRPJ81, SRPJ83 และ SRPJ85 ที่มากับหน้าปัดสไตล์นาฬิกาทหารแบบสามัญ และ SRPJ87 กับ SRPJ89 ที่มากับหน้าปัดแบบ ‘Navigation’ (เนวิเกชั่น) โดย 3 รูปแบบแรกนั้น ดีไซน์ของหน้าปัดถูกถอดแบบมาจากรุ่นขนาด 39.4 มิลลิเมตร ทั้งการใช้หลักชั่วโมงเลขอารบิกขนาดใหญ่ และมีเลขหลักชั่วโมงที่ 13-24 พิมพ์อยู่ด้านในอีกวงหนึ่ง สเกลนาที-วินาทีแบบขีดที่มองเห็นได้ชัดเจน สารเรืองแสง ‘LumiBrite’ (ลูมิไบรท์) ณ ตำแหน่งหลักชั่วโมงรูปสี่เหลี่ยม 11 ตำแหน่ง และรูปสามเหลี่ยมที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เลขหลักชั่วโมง 1-12 และบนเข็มทั้ง 3 กรอบหน้าต่างบอกวันกับวันที่ซึ่งมีการพิมพ์เส้นกรอบล้อมเพื่อเน้นความชัดเจน เข็มชั่วโมงกับนาทีทรงดาบขนาดใหญ่ และเข็มวินาทีทรงลูกศร จุดสังเกตความต่างที่เห็นได้ก็จะมีแค่หลักชั่วโมงทรงสี่เหลี่ยมทั้ง 11 ตำแหน่ง จะมีขนาดเท่ากันหมด มิได้เป็นชิ้นยาวที่ตำแหน่ง 3, 6 และ 9 นาฬิกา อันเนื่องมาจากขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหน้าปัดที่ลดลง ซึ่งในขณะเดียวกันก็ทำให้ตำแหน่งของกรอบหน้าต่างอยู่ใกล้กับริมหน้าปัดยิ่งขึ้นด้วย โดย SRPJ81 ซึ่งจับคู่มากับสายสเตนเลสสตีล ล็อกด้วยบานพับ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด จะใช้หน้าปัดสีดำผิวด้าน ร่วมกับสเกลและข้อความสีขาว เข็มชั่วโมงสีเงินสลับดำ เข็มนาทีสีเงิน เข็มวินาทีสีดำสลับแดง จานวันกับวันที่สีดำพิมพ์อักษรกับตัวเลขสีขาว และมีสารเรืองแสงเป็นสีขาวทั้งหมด
ขณะที่ SRPJ85 ที่ใช้หน้าปัดสีดำแบบผิวเกรน มีรายละเอียดเหมือนกับ SRPJ81 แต่ใช้สารเรืองแสงบนเลขหลักชั่วโมงกับเข็มเป็นสีเบจ และจับคู่มากับสายผ้าไนลอนสีเขียวเข้ม ส่วน SRPJ83 จะแปลกตาออกไปด้วยหน้าปัดสีทรายแบบผิวเกรน ร่วมกับหลักชั่วโมง เข็ม สเกล และข้อความที่เป็นสีดำ โดยมีเข็มวินาทีเป็นสีดำสลับแดง และใช้จานวันกับวันทีสีขาวพิมพ์อักษรและตัวเลขสีดำ ร่วมด้วยสารเรืองแสงสีขาว และจับคู่มากับสายผ้าไนลอนสีเบจ โดยลักษณะสายผ้าไนลอนของทั้ง SRPJ85 และ SRPJ83 นั้นมีลักษณะการทอและห่วงสเตนเลสสตีลแบบสาย ‘NATO’ (นาโต) เพื่อเสริมอารมณ์นาฬิกาสไตล์ทหาร
ส่วนรุ่น SRPJ87 และ SRPJ89 ที่ใช้หน้าปัดสไตล์ ‘Navigator’ พร้อมเข็มทรงดาบและมีเข็มวินาทีที่มีขั้วเข็มเป็นหมุดกลมเคลือบสารเรืองแสงนั้น จะมีหลักเลขอารบิกวงนอกเป็นหลักนาที และมีตำแหน่ง 12 นาฬิกา เป็นสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ล้อมด้วยขีดสเกลนาที-วินาที โดยมีจุดกลมเคลือบสารเรืองแสงเชื่อมกับขีดหนาอยู่ที่ตำแหน่งหลัก และถัดจากเลขหลักนาทีเข้าไปจะมีแนวเส้นวงแหวนคั่น และมีเลขหลักชั่วโมง 12 ขนาดเล็กอยู่ด้านใน โดย SRPJ87 จะมากับหน้าปัดสีแชมเปญ ปัดลาย ‘Sunburst’ (ซันเบิร์สต์) สเกลและข้อความสีดำ และเข็มสีดำ คู่มากับสายหนังลายหนังจระเข้สีเทาเข้ม ส่วนรุ่น SRPJ89 จะใช้หน้าปัดสีเขียวมรกตผิวปัดลาย ‘Sunburst’ ร่วมกับสเกล ข้อความ และเข็มสีดำ คู่กับสายหนังลายหนังจระเข้สีน้ำตาลเข้ม ทั้งคู่ใช้จานวันกับวันที่สีขาวพิมพ์อักษรกับเลขดำเช่นเดียวกัน
สำหรับขุมกำลังในการทำงานยังคงเป็นหน้าที่ของกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) อัตโนมัติ บอกเวลา 3 เข็ม พร้อมฟังก์ชันบอกวันกับวันที่ Cal.4R36 ความถี่การทำงาน 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง จำนวนทับทิม 24 เม็ด สำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง ที่หยุดเข็มวินาทีขณะตั้งเวลาได้ เช่นเดียวกับรุ่นเรือนขนาด 39.4 มิลลิเมตร ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งก็เหมาะสมอยู่แล้ว ด้วยความเป็นกลไกระดับพื้นฐานที่ไว้ใจได้ในเรื่องความทนทานและความง่ายต่อการซ่อมบำรุง
ราคาจำหน่ายของทั้ง 5 รูปแบบสำหรับ Seiko 5 Sports Field ขนาด 36.0 มิลลิเมตร หรือ Mid-Field Collection ที่ออกมา กำหนดไว้เท่ากันทั้งหมดที่ 13,300 บาทเท่านั้น