UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles SEVENFRIDAY X PAPA DON’T PREACH - ภาพหลากสีบนเรือนเวลาร่างทรงกลมจัตุรัส

SEVENFRIDAY X PAPA DON’T PREACH – ภาพหลากสีบนเรือนเวลาร่างทรงกลมจัตุรัส

by: ‘TomyTom’

 

ความคิดเมื่อแรกเห็นนาฬิกา SevenFriday x Papa Don’t Preach (เซเว่นฟรายเดย์ ครอส ปาปา ดอนท์ พรีช) รุ่นนี้ ก็คือ นี่มันนาฬิกาผู้หญิงหรือเครื่องประดับแฟชั่นกันแน่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก็บอกได้ว่าเป็นทั้ง 2 อย่างนั่นละ เพราะคือนาฬิกาสวิส SevenFriday ที่ผสานงานออกแบบจากแบรนด์แฟชั่นของอินเดีย ‘Papa Don’t Preach’ ไว้อย่างแยบยลแต่โดดเด่นอย่างเหนือชั้น โดยเผยโฉมออกมาพร้อมกัน 2 รุ่น ในฐานะนาฬิกาซีรีส์ C (ซี) คือเรือนสีเงิน C1/01 (ซีวันซีโรวัน) และเรือนสีทอง C2/01 (ซีทูซีโรวัน) โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

MITSUBISHI

 

ความร่วมมือของแบรนด์จาก 2 ทวีป นำมาซึ่งการสะท้อนถึงงานศิลป์ที่ประกอบด้วยงานสถาปัตย์การแสดงเวลาบนเรือนทรงกลม-จัตุรัสของ SevenFriday แบบบอกเวลา 2 เข็มแสนเรียบง่าย พร้อมฝังชิป NFC (เอ็นเอฟซี) และงานดีไซน์ของทีมนักออกแบบหญิงจากเมืองมุมไบเพื่อผู้หญิงทั้งโลกที่ก่อเกิดเป็นรายละเอียดการออกแบบขององค์ประกอบที่ยกระนาบนูนขึ้นมาเพื่อสร้างรูปแบบ 3 มิติ อันเป็นการเพิ่มความลึกล้ำและมิติให้กับนาฬิกาที่ปกติก็เต็มไปด้วยมิติอยู่แล้วสู่ระดับใหม่ และนอกจากตัวนาฬิกาแล้ว พวกเธอยังออกแบบกระเป๋าผ้าใบ ชุดฐานตั้งโชว์ และตกแต่งลังไม้บรรจุนาฬิกาให้กลายเป็นสีชมพู และพิมพ์ชื่อของทั้ง 2 แบรนด์ ไว้ด้านบนของลังด้วย ส่วนด้านหน้าก็พิมพ์วลี ‘like a ribbon around a bomb’ (ไลค์ อะ ริบบอน อราวน์ด อะ บอมบ์) ที่แปลว่า ‘ดั่งริบบิ้นพันรอบระเบิด’ ที่ครั้งหนึ่ง Andre Breton (อังเดร เบรตัน) ใช้อธิบายถึงจิตรกรชาวเม็กซิกันนาม Frida Kahlo (ไฟรดา คาห์โล) โดยจงใจใช้วลีนี้สรุปถึงความขัดแย้งแต่งดงามของความร่วมมือของทั้ง 2 องค์กร

 

ซีรีส์ C นี้ถือเป็นอนุกรมใหม่ของ SevenFriday โดยมีสถานะเป็นนาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือนเล็กและบางที่สุดของแบรนด์ มาในตัวเรือนรูปทรงกลมแบบจัตุรัสคล้ายกับโทรทัศน์แบบจอตู้ตามสไตล์ของแบรนด์ แต่มีความมนและดูนุ่มนวลกว่าซีรีส์อื่นๆ ตัวเรือนของทั้ง 2 รุ่นนี้ทำจากสเตนเลสสตีล วัดขนาดได้ที่ 42 x 42.5 มิลลิเมตร กับความหนา 8.5 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 30 เมตร ผนึกกระจกหน้าปัด ‘Mineral Glass’ (มิเนอรัล กลาส) เคลือบสารกันแสงสะท้อน และคู่มากับสายสเตนเลสสตีลแบบ 5 แถว ปัดลายสลับกับขัดเงา การทำงานเป็นหน้าที่ของ Cal.712 เครื่องสวิสควอตซ์ที่ผลิตโดย ‘Ronda’ (รอนดา) โดยมีเข็มบอกเวลาเพียงชั่วโมงกับนาทีเท่านั้น ซึ่งถูกใจหลายคนเพราะจะได้ไม่เห็นการขยับเป็นจังหวะของเข็มวินาทีให้กวนตา

 

อีกหนึ่งความเก๋ของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือเม็ดมะยมรูปหัวใจที่ส่วนบนถูกเคลือบด้วยแลคเกอร์สีสวยอันเป็นลายเซ็นดีไซน์ของ ‘Papa Don’t Preach’ ส่วนชื่อแบรนด์แบบเต็มของทั้ง 2 ก็สลักไว้อย่างสวยงามบนชิ้นแผ่นวงแหวนตกแต่งบนหน้าปัด ร่วมกับแนวร่องและรูปหัวใจ และก็มีอักษรย่อ ‘7F’ กับ ‘PDP’ คั่นด้วยรูปหัวใจลงแลคเกอร์สีสลักอยู่ที่ด้านซ้ายของตัวเรือนด้วย ส่วนตัวเข็มชั่วโมงนั้นเป็นวงกลมขนาดใหญ่ฉลุโปร่ง โดยออกแบบให้ส่วนชี้แสดงค่าเป็นทรงใบไม้ แล้วฉาบเติมร่องด้วยสารเรืองแสงสีขาว ส่วนเข็มวินาทีเป็นแบบเรียวและเติมร่องด้วยสารเรืองแสง

 

หน้าปัดประกอบด้วยชิ้นงาน 3 ชั้น โดยมีพื้นหลักเป็นการพิมพ์สีแบบหลายชั้นให้เกิดระดับที่แตกต่าง และมีแผ่นวงแหวนทรงกลมติดตั้งอยู่อีก 2 ชิ้น ส่วนฝั่งด้านหลังเป็นฝาหลังแบบแผ่นทึบที่ฝังชิป NFC เอาไว้ภายใน เพื่อยืนยันความแท้ด้วยการสื่อสารกับแอพ SevenFriday ซึ่งมีทั้งระบบ iOS (ไอโอเอส) และแอนดรอยด์

 

ความต่างของ C1/01 และ C2/01 อยู่ที่ C1/01 จะมากับตัวเรือนและสายสีเงิน ตกแต่งแนวร่องบนวงขอบตัวเรือนด้วยแลคเกอร์สีเขียวเบอร์แลค เช่นเดียวกับแลคเกอร์สีเขียวเบอร์แลคที่เคลือบบนเม็ดมะยม หน้าปัดพิมพ์เป็นภาพแมวอินเดียนลีโอพาร์ดลงสีสันหลากสี ส่วนวงแหวนชั้นนอกเคลือบโรเดียมด้วยเทคนิคกัลวานิกเช่นเดียวกับเข็ม ส่วนสารเรืองแสงบนเข็มนาทีเคลือบมาเป็นสีเขียวเบอร์แลคเช่นเดียวกับสีหัวใจบนวงแหวนหน้าปัด ราคาจำหน่ายตั้งไว้ที่ 60,000 บาท

ส่วน C2/01 จะเคลือบตัวเรือนและสายให้เป็นสีทองด้วยเทคนิค PVD และตกแต่งแนวร่องบนวงขอบตัวเรือนด้วยแลคเกอร์สีชมพูเบอร์แลค เช่นเดียวกับสีแลคเกอร์บนเม็ดมะยมเคลือบสีทอง ส่วนวงแหวนชั้นนอกเคลือบสีทองด้วยเทคนิคกัลวานิก ขณะที่การตกแต่งหน้าปัดพิมพ์เป็นภาพดอกไม้อินเดียนหลากสี เข็มเคลือบทองด้วยเทคนิกกัลวานิกฉาบร่องด้วยสารเรืองแสงสีขาว ขณะที่แนวร่องวงแหวนของเข็มชั่วโมงถูกเคลือบด้วยสีชมพู ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 65,000 บาท

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT
Luxe Time Pop Up