by: ‘TomyTom’
ฟังก์ชัน GMT บนเรือนนาฬิกาสไตล์สปอร์ต เป็นรูปแบบนาฬิกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยิ่งนาฬิกาสไตล์ดำน้ำที่มีขอบตัวเรือนหมุนได้ซึ่งทำให้สามารถปรับเปลี่ยนจากคุณลักษณะการจับเวลาขณะอยู่ใต้น้ำมาเป็นหมุนเพื่อตั้งค่าสำหรับแสดงเขตเวลาที่ 2 ได้ก็ยิ่งดูเหมาะเข้าไปใหญ่ จึงไม่เกินความคาดหมายที่ TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) จะสร้างฟังก์ชัน GMT มาเป็นทางเลือกให้กับตระกูลนาฬิกาดำน้ำ Aquaracer (อควอเรเซอร์) เจเนอเรชั่นล่าสุดของตนต่อเนื่องจากเจเนอเรชั่นก่อนหน้า
นาฬิกา GMT ใหม่ของ TAG Heuer รุ่นนี้ถูกให้ชื่อว่า Aquaracer Professional 300 GMT (อควอเรเซอร์ โปรเฟสชันแนล 300 จีเอ็มที) ซึ่งหมายความว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของนาฬิกา Aquaracer Professional 300 นาฬิกาดำน้ำ 300 เมตร สำหรับมืออาชีพเจเนอเรชั่นใหม่ที่เพิ่งออกมาเมื่อ ค.ศ. 2021 ความโดดเด่นของ Aquaracher Professional 300 GMT อยู่ที่ขอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลสิบสองเหลี่ยมขอบหยัก หมุนได้ 2 ทิศทาง ด้วยจำนวน 24 จังหวะ ที่ผนึกเข้ากับแผ่นวงแหวนเซรามิกชนิด 2 สี น้ำเงินเข้มกับขาวโพลน พร้อมสลักเลขหลักชั่วโมง 24 หลัก ลงสีสลับเป็นคู่สีตรงข้ามขาว-ดำเพื่อบอกช่วงกลางวัน-กลางคืนอย่างชัดเจน เพื่อให้ใช้หมุนตั้งค่าอ้างอิงสำหรับเวลาที่ 2 ได้จากเข็ม GMT ทรงลูกศรเคลือบแลคเกอร์สีเหลืองสดที่เพิ่มเข้ามาอีกเข็มหนึ่ง
ตัวเรือนของรุ่นนี้เป็นสเตนเลสสตีลขนาด 43.0 มิลลิเมตร ผิวปัดลายสลับขัดเงา กันน้ำได้ 300 เมตร เช่นเดียวกับ Aquaracer Professional 300 เจเนอเรชั่นล่าสุด รวมไปถึงเม็ดมะยมที่เป็นแบบขันเกลียว และฝาหลังทึบขันเกลียวที่สลักเป็นภาพหมวกดำน้ำ และหน้าปัดร่องลายเส้นแนวขวางล้อมด้วยวงสเกลนาที เจาะช่องหน้าต่างทรงเหลี่ยมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และติดตั้งด้วยหลักชั่วโมงเคลือบโรเดียมทรงสี่เหลี่ยมคางหมูร่วมกับทรงแปดเหลี่ยม บอกเวลาพื้นฐานด้วยเข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีทรงดาบขนาดใหญ่ ร่วมกับเข็มวินาทีทรงเรียว ซึ่งรุ่นนี้มีการเคลือบส่วนปลายเป็นสีเหลืองให้เข้ากับสีของเข็ม GMT ส่วนหน้าปัดใช้เป็นสีน้ำเงินเข้มปัดลาย ‘Sunray’ (ซันเรย์) ประทับพิมพ์สเกลและข้อความด้วยสีขาว ยกเว้นเพียงคำ ‘Automatic’ (ออโตเมติก) ที่ใช้เป็นสีเหลือง ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นชุดสีเดียวกับ Aquaracer Professional 300 เวอร์ชั่นหน้าปัดสีน้ำเงินนั่นเอง สำหรับกระจกหน้าปัดเป็นคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน พร้อมเลนส์ขยายวันที่ทรงกลมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา สารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) สีขาวก็เคลือบมาให้อย่างครบครันบนทุกหลักชั่วโมง ทุกเข็ม และสัญลักษณ์สามเหลี่ยมบนขอบตัวเรือน โดยตำแหน่งเกือบทั้งหมดจะเรืองแสงเป็นสีเขียว เว้นเพียงพื้นที่สามเหลี่ยมบนเข็ม GMT และเส้นสามเหลี่ยมบนขอบตัวเรือนที่จะเรืองแสงเป็นสีฟ้า
เครื่องที่เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนนาฬิการุ่นนี้เป็นกลไกอัตโนมัติ Cal.7 สำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง จำนวนทับทิม 25 ชิ้น บอกเวลาหลักแบบ 3 เข็ม พร้อมวันที่ และฟังก์ชันบอกเวลาที่ 2 ด้วยเข็มกลาง ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง อันมีพื้นฐานมาจากกลไกอัตโนมัติ SW330-2 ของ Sellita (เซลลิตา) ซึ่งในการปรับตั้งเวลา GMT นั้น เข็ม GMT จะเคลื่อนที่แบบจังหวะละ 1 ชั่วโมง เมื่อหมุนเม็ดมะยม
Aquaracer Professional 300 GMT มีทางเลือกของสายให้จับคู่ 2 แบบ คือ Ref.WBP2010.BA0632 ที่มากับสายสเตนเลสสตีล 3 แถว ดีไซน์สปอร์ตแกร่งผิวปัดลาย ซึ่งตั้งราคาไว้ที่ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 137,000 บาท กับ Ref.WBP2010.FT6198 ซึ่งใช้สายยางสีน้ำเงินเข้มผิวลายแนวขวาง ที่วางสนนราคาไว้ย่อมเยากว่าเล็กน้อยที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 126,000 บาท โดยทั้ง 2 รูปแบบสายจะมากับตัวล็อกแบบบานพับ ปลดล็อกด้วยปุ่มกดคู่ ซึ่งสามารถเลื่อนปรับระดับความยาวของสายได้อย่างละเอียด
