UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles TAG HEUER CARRERA CHRONOGRAPH YEAR OF THE DRAGON LIMITED EDITION - เถลิงนักษัตรมังกรกับ...

TAG HEUER CARRERA CHRONOGRAPH YEAR OF THE DRAGON LIMITED EDITION – เถลิงนักษัตรมังกรกับ 2 รุ่นสปอร์ต

by: ‘Mr.Big’

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงปลายปีของทุกปี แบรนด์ชั้นนำจำนวนไม่น้อยที่มีตลาดสำคัญอยู่ในโซนเอเซียตะวันออก จะสร้างสรรค์เรือนเวลารุ่นพิเศษเพื่อเป็นการต้อนรับปีถัดไป โดยใช้สัญลักษณ์ประจำนักษัตรที่เป็นความเชื่อของโลกตะวันออกมาผสมผสานลงไปในคอลเลกชั่นของตนเองอย่างมีความหมาย ล่าสุดก็มีคอลเลกชั่นต้อนรับปีมังกรแบรนด์แรกเผยโฉมออกมาให้ชมกันแล้ว โดยเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของแบรนด์สปอร์ตอย่าง TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) ที่นำคอลเลกชั่นชั้นเรือธงอย่าง Carrera (คาร์เรรา) มาเติมเต็มความพิเศษแห่งปีนักษัตรมังกรที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นานนี้พร้อมกันถึง 2 เวอร์ชั่น และนี่คือ Carrera Chronograph Year of the Dragon (คาร์เรรา โครโนกราฟ เยียร์ ออฟ เดอะ ดรากอน)

MITSUBISHI

 

คอลเลกชั่นที่สร้างสรรค์เพื่อต้อนรับปีนักษัตริย์ของ TAG Heuer ประเดิมศักราชขึ้นในปี 2020 ซึ่งตรงกับปีชวด โดยครั้งนั้นจับเอาความพิเศษของปีหนูลงไปในเรือนบรอนซ์ของ Autavia (ออตาเวีย) ได้อย่างน่าสนใจ ถัดมาอีก 2 ปีโดยเว้นปีฉลูที่ไม่ได้มีการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับนักษัตรดังกล่าวออกมา ก็นำเสนอคอลเลกชั่นประจำปีนักษัตรอีกครั้งในรุ่นปีขาล โดยเปลี่ยนจากคอลเลกชั่น Autavia มาเป็น Carrera เช่นเดียวกับปีกระต่าย หรือในปีนี้ที่ TAG Heuer เลือกใช้คอลเลกชั่น Carrera มาเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างสรรค์อีกครั้ง แต่เปลี่ยนมาเป็นรุ่นโครโนกราฟเพื่อให้สปอร์ตยิ่งขึ้น โดยเรือนต้อนรับปีมังกรที่เพิ่งเผยโฉมนี้รังสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของ Carrera Chronograph เช่นเดียวกับของปีที่ผ่านมา แต่เพิ่มตัวเลือกด้วยการสร้างสรรค์ออกมา 2 เวอร์ชั่น ได้แก่รุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลกับจำนวนการผลิตที่ 300 เรือน และรุ่นตัวเรือนทองกุหลาบ 18K ที่นำเสนอออกมาให้เป็นเจ้ากันแค่ 50 เรือน เท่านั้น

TAG Heuer Autavia Year of the Rat

TAG Heuer Carrera Year of the Tiger

TAG Heuer Carrera Chronograph Year of the Rabbit

TAG Heuer Carrera Chronograph Year of the Dragon

 

ตัวเรือนทั้ง 2 รุ่น ยังคงรักษาดีไซน์ดั้งเดิมของ Carrera ในยุค 60s ไว้ ในขนาดซึ่งปรับให้เข้ากับยุคสมัยที่ 42.0 มิลลิเมตร หนา 14.33 มิลลิเมตร ผ่านการขัดเงาอย่างได้มิติ พร้อมด้วยปุ่มกดจับเวลาทรงกระบอกสูบ กันน้ำได้ลึก 100 เมตร กรุกระจกหน้าปัดชนิดคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อน โดยนำเสนอพื้นหน้าปัดในโทนสีเดียวกับตัวเรือน พร้อมงานปัดลายรัศมี ‘Sunburst’ (ซันบรัส) ตัดด้วยวงหน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที และ 12 ชั่วโมง ที่จัดวางแบบ ‘Bi-compax’ (ไบคอมแพ็คซ์) สีแดงเบอร์กันดีแต่งลายก้นหอย เพื่อสะท้อนความหมายอันเป็นมงคลของสีแดงตามความเชื่อของชาวเอเซียตะวันออก พร้อมด้วยตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่า ‘มังกร’ ในลักษณะงานเขียนพู่กันจีนแบบอักษร ‘เฉ่าซู’ หรืออักษรหวัด ประดับไว้บริเวณใต้แกนเข็มหลัก เหนือเข็มย่อยแสดงวินาทีที่ 6 นาฬิกา ส่วนหลักชั่วโมงเคลือบโรเดียมหรือทองกุหลาบ เป็นทรงแท่งปาดเหลี่ยม บากร่องที่ด้านบนสำหรับเติมแลคเกอร์สีแดง เช่นเดียวกับเข็มวินาทีหลักสำหรับจับเวลาที่เคลือบสีแดงเบอร์กันดีเอาไว้อย่างโดดเด่นและสวยงาม เจาะช่องหน้าต่างแสดงวันที่เอาไว้บริเวณ 6 นาฬิกา และเคลือบสารเรืองแสงเอาไว้บนเข็มชั่วโมง เข็มนาที และจุดหลังหลักชั่วโมง เพื่อให้สามารถทราบเวลาได้แม้ในความมืด

 

การทำงานใช้กลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ออโตเมติกโครโนกราฟ Cal.Heuer 02 ที่ประกอบขึ้นแบบ ‘Integrated’ (อินทรีเกรเต็ด) จากจำนวนชิ้นส่วน 168 ชิ้น ทับทิม 33 เม็ด ควบคุมด้วย ‘Column-wheel’ (คอลัมน์วีล) และล้อคลัตซ์แนวตั้ง ทำให้การจับเวลามีประสิทธิภาพมากขึ้น กลไกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32.0 มิลลิเมตร ทำงานด้วยความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สามารถสำรองพลังงานได้นาน 80 ชั่วโมง และสร้างพลังงานผ่านโรเตอร์ที่ออกแบบให้ดูคล้ายพวงมาลัยรถแข่ง โดยสามารถชื่นชมการทำงานได้ทางฝาหลังคริสตัลแซพไฟร์ ซึ่งเพิ่มความพิเศษด้วยงานพิมพ์ลายมังกรจีนสีทองสลับดำเอาไว้อย่างสะดุดตา

 

และไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีแดงและตัวล็อกสายแบบบานพับที่ทำจากวัสดุชนิดเดียวกับตัวเรือน โดยมีกล่องบรรจุสีแดงมงคลที่ออกแบบเป็นพิเศษมาให้ด้วย เริ่มจัดจำหน่ายให้เป็นเจ้าของกันแล้วในราคา 6,150 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 250,000 บาท สำหรับรุ่นสเตนเลสสตีล และ 22,000 ฟรังก์สวิส หรือราวๆ 880,000 บาท ในรุ่นทองกุหลาบ 18K

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT
Luxe Time Pop Up