by: ‘TomyTom’
TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) บรรเจิดไอเดียการตกแต่งใหม่ด้วยการนำภาพมนตร์เสน่ห์ยามค่ำคืนจากมุมมองผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีแสงไฟนีออนและไฟส่องถนนท่ามกลางความมืดมิดเป็นทัศนวิสัยหลัก มาถ่ายทอดผ่านหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งรุ่นที่เลือกมาตกแต่งในธีมนี้ก็คือนาฬิกาโครโนกราฟทรงจัตุรัสตระกูลยืนยง Monaco (โมนาโค) หนึ่งในตัวแทนที่ชัดเจนที่สุดของแบรนด์ในด้านนาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อวงการมอเตอร์สปอร์ต กับชื่อที่ตั้งให้อย่างน่าฟังว่า Monaco Night Driver (โมนาโค ไนท์ ไดรเวอร์) โดยกำหนดสถานะเป็นงานผลิตจำนวนจำกัด ‘Limited Edition’ (ลิมิเต็ด เอดิชั่น) เพียง 600 เรือน และใช้โอกาสจังหวะเวลาของการจัดการแข่งขันรถสูตร 1 รายการ ‘Singapore Grand Prix’ (สิงคโปร์ กรังด์ ปรีซ์) ซึ่งเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนในการเปิดตัวสู่ตลาด
จุดเด่นที่สุดของเอดิชั่นนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นแสงเรืองสว่างสีฟ้าอมเขียวที่เปล่งจากหน้าปัด กับความเจิดจ้ากว่าที่เคย เพราะใช้นวัตกรรมทางเทคนิคที่คิดค้นขึ้นใหม่ในการฉาบสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) ไว้บนหน้าปัด ซึ่งเรืองแสงเป็นสีฟ้าอมเขียวได้นานถึง 3 ชั่วโมง (หากก่อนหน้านั้นได้รับปริมาณแสงจนเต็มประจุ) ร่วมกับองค์ประกอบหน้าปัดที่ใช้โทนสีเทา 2 ระดับความเข้ม และสีดำ ซึ่งนักออกแบบของแบรนด์นำแรงบันดาลใจในการให้สีมาจาก 3 สีหน้าปัด คือน้ำเงินมิดไนท์บลู สีเทาชาร์โคล และสีดำด้าน ที่ใช้กับนาฬิกา Monaco ในยุคแรกๆ
ในยามสภาพแสงแวดล้อมปกติ หน้าปัดจะเป็นโทนสีขาว-ดำ ไร้สีเตะตา เพราะสารแสงเรืองสีฟ้าอมเขียวอันเจิดจ้าจะปรากฏให้เห็นเป็นผิวโอปอลีนสีเทาอ่อน โดยมีแท่งหลักชั่วโมงเจียรเหลี่ยมคมชัด สเกลบนหน้าปัดย่อยจตุรัสขอบมนทั้ง 2 วง และเข็มเป็นสีดำตัดสีให้อ่านค่าเวลาได้ชัด ขณะที่หน้าปัดหลักรูปวงกลมถูกทำเป็นสีเทาเข้ม ตัดกับสเกล ตราสัญลักษณ์ และข้อความสีขาว ซึ่งสเกลและตราสัญลักษณ์กับชื่อนาฬิกาก็ถูกเคลือบสารเรืองแสงเอาไว้ด้วย และมีจุดกลมที่เป็นสารเรืองแสงสีเทาอยู่ตรงกับหลักชั่วโมง เบิ้ลจุดคู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เหนือตำแหน่งติดตั้งแท่งหลักชั่วโมงคู่เพื่อนำสายตาให้อ่านค่าได้ไม่สับสน ขณะที่เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาที เคลือบเป็นสีดำ หากใช้เข็มจับเวลาวินาทีเป็นสารเรืองแสงสีขาวซึ่งก็เข้ากับสีขาวของแถบสารเรืองแสงแนวยาวที่ฉาบอยู่บนเข็มชั่วโมงกับเข็มนาที และจานวันที่สีขาวพิมพ์เลขดำได้อย่างกลมกลืน
เมื่อนาฬิกาอยู่ในความมืด แสงเรืองสีฟ้าอมเขียวจะเจิดจ้าออกมาอย่างน่าประทับใจจากพื้นที่หน้าปัดวงนอก ตัดกับเงาดำของแท่งหลักชั่วโมงเคลือบแลคเกอร์สีดำ เช่นเดียวกับพื้นที่หน้าปัดย่อยทั้ง 2 วงที่ตัดเงาดำของเข็มสีดำและสีดำของสเกล เสริมด้วยแสงเรืองสีเดียวกันจากจุดกลมทุกหลัก 5 ขีดสเกลทุกหลัก 1 และตราสัญลักษณ์ TAG Heuer กับชื่อ Monaco บนหน้าปัด และบนแถบร่องยาวที่เข็มชั่วโมงกับเข็มนาที และบนเข็มจับเวลาวินาทีตลอดทั้งเข็ม
ในส่วนของตัวเรือนขนาด 39.0 x 39.0 มิลลิเมตร ซึ่งกันน้ำได้ 100 เมตรนั้น ทางแบรนด์เลือกใช้ไทเทเนียมเกรด 5 ทั้งตัวเรือน ขอบตัวเรือน และฝาหลัง โดยเคลือบเป็นสีดำด้วยเทคนิค DLC ปัดแต่งลายซาตินสลับกับขัดเงา พร้อมกระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์ทรงกล่องสูงเด่นเน้นสันคม พร้อมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ขณะที่แผ่นคริสตัลแซพไฟร์ที่กรุฝาหลังเป็นรูปวงกลมขนาดเส้นรอบวงพอดีกับตัวกลไก ซึ่งบนวงฝาหลังด้านบนจะมีการสลักเลขลำดับประจำเรือน /600 มาให้ด้วย ส่วนสายที่จับคู่มาเป็นหนังวัวสีดำที่เจาะรูกลมทะลุเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี อันเป็นรูปแบบสายสำหรับนาฬิกามอเตอร์สปอร์ต เย็บด้วยด้ายสีเทาอ่อน ล็อกรัดกับข้อมือด้วยบานพับรูปทรงตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ทำจากไทเทเนียมเกรด 5 เคลือบดำด้วยเทคนิค DLC ปลดล็อกด้วยปุ่มกดคู่
กลไกขับเคลื่อนสำหรับเอดิชั่นนี้เป็นเครื่อง ‘In-house’ (อินเฮาส์) ขึ้นลานอัตโนมัติ พร้อมระบบโครโนกราฟจับเวลาได้ 12 ชั่วโมง พร้อม ‘Column-wheel’ (คอลัมน์วีล) และ ‘Vertical-clutch’ (เวอร์ติคัลคลัตช์) อันเป็นระบบกลไกโครโนกราฟแบบคลาสสิก และฟังก์ชันวันที่ พลังงานสำรอง 80 ชั่วโมง ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ตกแต่งผิวสะพานจักรอย่างสวยงามด้วยลายแถบริ้วสไตล์เจนีวา Cal.Heuer 02 ซึ่งโรเตอร์เคลือบดำฉลุโปร่งทรงคล้ายก้านล้อแม็กตกแต่งลายแถบริ้วสไตล์เจนีวาสำหรับเอดิชั่นนี้ ยังประทับข้อความและตราสัญลักษณ์ด้วยสีฟ้า และเคลือบชิ้น ‘Column-wheel’ เป็นสีฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับสีแสงเรืองทางฝั่งด้านหน้าอีกด้วย
ความพิเศษของนาฬิกาโครโนกราฟ Monaco Ref.CBL2181.FC6515 ผลิตจำนวนจำกัด 600 เรือน เอดิชั่น Night Driver Limited Edition นี้รวมไปถึงกล่องและกระเป๋าบรรจุนาฬิกาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ด้วยพื้นหลักสีดำ แต่งด้วยสีฟ้า พร้อมข้อความระบุชื่อนาฬิกาและตราสัญลักษณ์สีขาว โดยราคาจำหน่ายที่ TAG Heuer ตั้งไว้ก็คือ 9,550 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 341,000 บาท โดยเริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2023 เป็นต้นมา
