by: ‘Mr.Big’
ถึงตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Seascoper 300 (ซีสโคเปอร์ ธรีฮันเดรด) คอลเลกชั่นดำน้ำจาก Titoni (ติโตนี) กลายเป็นอีกหนึ่งความนิยมสำหรับผู้รักนาฬิกาสปอร์ตดำน้ำ ด้วยรูปแบบที่ดูลงตัวไปทุกมุมมอง กับคุณภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม นำเสนอสู่ข้อมือด้วยราคาที่สมเหตุสมผล และจากความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นดังกล่าว Titoni จึงสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับคอลเลกชั่นนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงกลางปีที่ผ่านมาก็ได้แนะนำ Seascoper 300 Black (ซีสโคเปอร์ ธรีฮันเดรด แบล็ก) และ Seascoper 300 Color Block (ซีสโคเปอร์ ธรีฮันเดรด คัลเลอร์ บล็อก) พร้อมบุคลิกกร้าวแกร่งและสนุกสนานในเรือนดำล้วนและสีดำสลับสีส้ม ถึงวันนี้ Titoni ก็ขอเผยโฉมสมาชิกล่าสุดมาสลับขั้วอารมณ์ กับหน้าปัดสีขาวโดดเด่นที่ดูสดใสแต่ทรงพลังในรุ่น Seascoper 300 ‘The Cool White’ (ซีสโคเปอร์ ธรีฮันเดรด ‘เดอะ คูล ไวท์’)
เรือนดำน้ำรุ่นล่าสุดนี้ นักออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากหิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดเขา ‘Matterhorn’ (แมตเทอร์ฮอร์น) ในสวิตเซอร์แลนด์ ความประทับใจนั้นถูกส่งผ่านมาเป็นหน้าปัดสีขาวสว่างตา ตัดด้วยแทร็คเวลา โลโก้ และข้อความต่างๆ สีดำสนิท ขณะที่หลักชั่วโมงและเข็มก็ถูกทำในลักษณะตัดเส้นสีดำ โดยเคลือบตรงกลางด้วยสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) ซึ่งเลือกใช้สีขาวให้กลมกลืนกับพื้นผิว จัดแสดงเวลาแบบ 3 เข็ม ด้วยเข็มทรงเดียวกับ Seascoper 300 รุ่นอื่นๆ อย่างมีเอกลักษณ์ เสริมด้วยการแสดงวันที่ในช่องหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยไฮไลท์กรอบด้วยเส้นสีดำ และเลือกใช้จานดิสก์สีขาวกับตัวเลขอารบิกสีดำในการแสดงเพื่อคุมโทนให้เป็นเช่นเดียวกันทั้งหมด
แน่นอนว่าในรุ่นนี้ยังคงเน้นย้ำคุณภาพในการบอกเวลาตามมาตรฐานสูงสุด ด้วยการทำงานของกลไกออโตเมติก Cal.SW200-1 จาก ‘Sellita’ (เซลลิตา) ที่ผ่านการปรับแต่งในระดับสูงสุด เพื่อให้ได้มาตรฐานความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ รับรองโดยสถาบัน COSC โดยมีความถี่การทำงานที่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง และมอบความสามารถในการสำรองพลังงานไว้ที่ 42 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในตัวเรือนดำน้ำของ Seascoper 300 ที่ผลิตจากสเตนเลสสตีล พร้อมงานฟินิชิงลายซาตินบนพื้นผิวด้านหน้า กับงานลบเหลี่ยมและขัดเงาบริเวณสันขอบ
ขอบตัวเรือนถูกเซาะเป็นร่องหยักเพื่อให้ง่ายต่อการจับ แม้ว่าจะสวมใส่ถุงมือดำน้ำอยู่ก็ตาม ประกบผิวหน้าด้วยวงแหวนเซรามิกสีดำ ตกแต่งด้วยสเกลเวลาสีขาว และเครื่องหมายสามเหลี่ยมกับแทร็คเวลาแบบถี่ช่วง 15 นาทีแรก เพื่อกำหนดระยะเวลาในการดำน้ำที่ปลอดภัยกับการปรับหมุนในทิศทางเดียว ขณะที่เม็ดมะยมเป็นแบบขันเกลียวพร้อมบ่าปกป้อง เพื่อสร้างความมั่นใจควบคู่ไปกับความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร และใช้คริสตัลแซพไฟร์ในการผนึกหน้าปัด ส่วนฝาหลังเป็นชนิดแผ่นทึบ ตกแต่งด้วยลายสลักรูปช่องหน้าต่างของเรือเดินสมุทร โดยตรงกลางมีการขัดผิวจนเงาเหมือนกระจก จัดประกอบกับสายได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายสเตนเลสสตีลแบบ 3 แถว พร้อมตัวล็อกบานพับ สายยางสไตล์สปอร์ต และสาย ‘NATO’ (นาโต) ที่ผลิตด้วยวัสดุอัพไซเคิลจากเส้นใยของเศษพลาสติกในทะเล สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคา 63,000 บาท
