UN HEADER 23
UN HEADER 23
Home Articles VACHERON CONSTANTIN OVERSEAS MOON PHASE RETROGRADE DATE - ฟังก์ชันที่แตกต่างบนร่างสปอร์ตหรู

VACHERON CONSTANTIN OVERSEAS MOON PHASE RETROGRADE DATE – ฟังก์ชันที่แตกต่างบนร่างสปอร์ตหรู

by: ‘TomyTom’

 

ไม่บ่อยครั้งที่นาฬิกาสไตล์ ‘Luxury Sport’ (ลักชัวรี สปอร์ต) หรือที่เราเรียกกันว่าแนวสปอร์ตหรู ซึ่งจะมาพร้อมกับตัวเรือนและสายดีไซน์เฉพาะตัวที่ดูกลมกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว จะมากับรูปแบบการแสดงค่าชนิด ‘Retrograde’ (เรโทรเกรด) ที่เป็นเข็มกวาดจากจุดเริ่มไปจนสุดแล้วตีกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ หากแต่ในปีนี้ Vacheron Constantin (วาเชอรอง กองสตองแตง) ได้นำลักษณะการบอกค่าเช่นนี้มาบรรจุไว้ในคอลเลกชั่น Overseas (โอเวอร์ซีส์) ของตน ซึ่งก็สร้างความประทับใจได้ในทันทีที่ได้ยล นาฬิการุ่นนี้ถูกให้ชื่ออย่างง่ายๆ ตรงประเด็นว่า Overseas Moon Phase Retrograde Date (โอเวอร์ซีส์ มูน เฟส เรโทรเกรด เดท)

MITSUBISHI

 

แม้การแสดงค่าแบบ ‘Retrograde’ จะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ Vacheron Constantin เพราะในกลุ่มเรือนเดรสหรูก็มีให้เห็นกันมานานแสนนานแล้ว หากแต่นี่เป็นครั้งแรกที่นำมาใส่ไว้ในนาฬิกาแบบ ‘Luxury Sport’ จึงเหมือนกับการนำของดีที่ตนมีมาลองทำอะไรใหม่ๆ ดู ซึ่งก็ต้องจับตากันต่อไปว่าผู้คนจะให้การต้อนรับมากน้อยเพียงใด โดยการแสดงค่านี้ทำหน้าที่บอกวันที่ ซึ่งจะกวาดตัวจากตำแหน่งเหนือ 9 นาฬิกา เล็กน้อย ไปสู่ก่อน 3 นาฬิกา เล็กน้อย เรียกว่าใช้พื้นที่เกือบครึ่งหน้าปัด และยังมากับฟังก์ชันบอกดิถีจันทร์ที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งต้องการการปรับตั้งเพียง 1 วัน ในทุก 122 ปี จากจานดิสก์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ให้มองผ่านช่องหน้าต่างทรงเสี้ยวจันทร์ โดยมีเลขลำดับวันจาก 0 ถึง 29½ เพื่อให้อ่านจำนวนวันที่ผ่านไปนับตั้งแต่นิวมูนครั้งล่าสุด ซึ่งเรียกว่า ‘Age of the Moon’ (เอจ ออฟ เดอะ มูน) กำกับไว้เป็นแนวโค้งตามช่องหน้าต่าง รับกับแนวโค้งของเลขวันที่ด้านบนได้เป็นอย่างดี

 

การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 27.2 มิลลิเมตร Cal.2460 R31L/2 ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องฐานย่อมเป็นกลไกอัตโนมัติ ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง Cal.2460 และเมื่อรวมเข้ากับโมดูลฟังก์ชัน ‘Retrograde Date’ และข้างขึ้น-ข้างแรมความแม่นยำสูง ซึ่งทั้งหมดปรับตั้งได้ด้วยเม็ดมะยมชุดเดียวกับการปรับตั้งเวลาที่คาลิเบรอนี้มีมาให้แค่เข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีแล้ว ก็ทำให้มีจำนวนชิ้นส่วนมากถึง 275 ชิ้น ด้วยกัน ส่วนทับทิมมีอยู่ 27 เม็ด กับความหนาโดยรวมของกลไกที่ 5.4 มิลลิเมตร ซึ่งไม่ได้หนาจนเกินงาม ส่วนพลังงานสำรองกระทำได้สูงสุดที่ 40 ชั่วโมง ในด้านความงดงามของกลไกย่อมไม่เสียชื่อชั้นของแบรนด์ โดยเมื่อมองทะลุฝาหลังกรุแซพไฟร์คริสตัลเข้าไป จะพบกับพื้นผิวเกรนแบบแนววงบนแท่นกลไก และลายตกแต่งสัญลักษณ์ ‘Compass Rose’ (คอมพาส โรส) ที่สะท้อนถึงการเดินทางและการสำรวจบนโรเตอร์ทอง 22K ทั้งหมดนี้บรรจุอยู่ในตัวเรือนโดยมีแหวนตัวเรือนที่ทำจากเหล็กอ่อนคั่นอยู่ เพื่อป้องกันสนามแม่เหล็ก ทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่า กว่าจะสำเร็จเสร็จออกมาสมบูรณ์จนบรรจุไว้ในนาฬิกา Overseas ก็ต้องใช้เวลาในการค้นคว้าและพัฒนาถึง 3 ปี เลยทีเดียว และแน่นอนว่าย่อมต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของเกณฑ์มาตรฐาน ‘Hallmark of Geneva’ (ฮอลล์มาร์ค ออฟ เจนีวา) ที่ทางแบรนด์ยึดปฏิบัติด้วย

 

ตัวเรือนของ Overseas Moon Phase Retrograde Date นี้มีขนาด 41.0 มิลลิเมตร กับความหนา 10.48 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 5 บาร์ (ราว 50 เมตร) โดยเปิดตัวด้วย Ref.4000V/210A-B911 ที่ใช้ตัวเรือนสเตนเลสสตีลในดีไซน์ที่คุ้นเคย ซึ่งเด่นด้วยวงขอบตัวเรือนแบบ 6 แฉกอันมีที่มาจากตรา ‘Maltese Cross’ (มัลทีส ครอส) โลโก้ของแบรนด์ เม็ดมะยมขอบฟลุต ผิวขัดแต่งแบบขัดเงาสลับปัดลายซาติน ที่มากับหน้าปัดแลคเกอร์สีน้ำเงินโปร่งแสงกระจ่างตาที่เล่นกับแสงตกกระทบได้อย่างงดงามจากการตกแต่งผิวให้ละเมียดดุจกำมะหยี่บนวงขอบหน้าปัด และการตกแต่งลายปัดแบบ ‘Satin-brushed’ (ซาตินบรัชด์) เป็นแนวประกายแสงอาทิตย์ ‘Sunburst’ (ซันเบิร์สต์) บนพื้นหน้าปัด ร่วมกับหลักชั่วโมงและเข็มเคลือบสารเรืองแสงที่เป็นรูปทรงประจำตระกูล ‘Overseas’ เจเนอเรชั่นปัจจุบัน ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2016 และแน่นอนว่าย่อมมากับสายมากกว่า 1 เส้น เพื่อให้สลับเปลี่ยนใช้งานตามอารมณ์ และสถานการณ์ได้อย่างง่ายดายด้วยอานิสงส์จากระบบติดตั้งสายที่สามารถถอดเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ อันเป็นอีกลักษณะประจำตัวของ Overseas เจเนอเรชั่นปัจจุบัน โดยเวอร์ชั่นนี้จะมากับสายสเตนเลสสตีลรูปทรงกึ่ง ‘Maltese Cross’ ผิวขัดเงาสลับปัดลายซาติน ล็อกด้วยบานพับแบบ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด พร้อมระบบปรับขยายระดับความยาวของสาย และมีสายหนังวัวสีกรมท่า เย็บด้ายสีเทาอ่อน กับสายยางสีกรมท่ามาให้สลับใช้ โดยจะมีตัวล็อกสเตนเลสสตีลแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกดที่ถอดและติดตั้งได้ง่ายมาให้อีก 1 ชิ้นเพื่อใช้งานร่วมกับสายหนังและสายยาง

 

เข็มวันที่ขยับตัวแบบ ‘Retrograde’ ทรงลูกศรของเวอร์ชั่นเปิดตัวนี้ทำจากทองขาว 18K ถูกย้อมให้เป็นสีน้ำเงินโดยมีการฉาบสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) สีฟ้าไว้ที่ปลายศร ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้แตกต่างอย่างชัดเจนจากเข็มบอกเวลากับหลักชั่วโมงทองขาว 18K สีปกติ ซึ่งฉาบด้วย ‘Super-LumiNova’ สีขาว ส่วนวงกลมแทนพระจันทร์บนพื้นจานสีน้ำเงินแต่งลายร่องร่วมกับเกล็ดสีเงินจำแลงหมู่ดาวและตรา ‘Maltese Cross’ ก็ดูเหมือนจะเป็นทองขาว 18K ด้วยเช่นกัน ขณะที่สเกลกับข้อความนั้นประกอบด้วยสีขาว สีเงิน และสีฟ้า ไล่ระดับโทนกันอย่างน่าประทับใจและทำให้หน้าปัดดูมีมิติมากขึ้น

 

Vacheron Constantin จะวางจำหน่าย Overseas Moon Phase Retrograde Date รุ่นนี้เฉพาะที่บูติกของตนเท่านั้น เพราะกำหนดให้เป็น ‘Boutique Exclusive’ (บูติก เอ็กซ์คลูซีฟ) สำหรับราคาจำหน่ายในเว็บไซต์ของแบรนด์ระบุไว้ว่า ‘Price on request’ (ไพรซ์ ออน รีเควสต์) ซึ่งหมายความว่าต้องสอบถามที่บูติกโดยตรง

SEIKO JUNE 23 CONTENT RGT