by: ‘Mr.Big’
Vacheron Constantin (วาเชอรอง กองสตองแตง) เผยสมาชิกใหม่จากคอลเลกชั่นสปอร์ตขายดีอย่าง Overseas (โอเวอร์ซีส์) ในรุ่น Self-winding (เซลฟไวน์ดิง) ซึ่งปีนี้เน้นไปเอาใจผู้รักนาฬิกาไซส์เล็ก รวมถึงข้อมือสุภาพสตรี ด้วยขนาดใหม่ที่ปรับลดลงมาจากปีที่แล้วลงมาเหลือ 34.5 มิลลิเมตร และใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเป็น 35.0 มิลลิเมตร สำหรับรุ่นประดับเพชร พร้อมปรับสุนทรียภาพให้เป็นเรือนลักชัวรีสปอร์ตที่หรูหรามีระดับอย่างสมบูรณ์
Overseas Self-winding ประจำปี 2023 ถูกปรับขนาดให้เล็กและบางลงกว่าเดิม กับตัวเลขความหนาที่ 9.33 มิลลิเมตร ทั้งยังมีการปรับแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้เข้ากับหลักสรีรศาสตร์มากขึ้น สามารถเข้ากันทั้งกับข้อมือสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี นำเสนอตัวเรือนใน 2 วัสดุ คือสเตนเลสสตีล หรือทองชมพู 18K พร้อมงานแต่งพื้นผิวแบบปัดด้านสลับขัดมัน โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์งานดีไซน์ที่คุ้นตาของ Overseas นอกจากนี้บริเวณขอบตัวเรือนบากร่องที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลโก้ ‘Maltese Cross’ (มัลทีส ครอส) ของแบรนด์ ยังเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ชื่นชอบสไตล์หรูหรา ด้วยการประดับเพชรคัดเกรดจำนวน 90 เม็ด น้ำหนักรวม 0.86 กะรัต ส่วนด้านในตัวเรือนมีการเสริมเหล็กอ่อนเพื่อป้องกันผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก ผนึกหน้าปัดด้วยคริสตัลแซพไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อน พร้อมเม็ดมะยมแบบขันเกลียว อันเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับประสิทธิภาพในการกันน้ำที่ระดับ 150 เมตร
หน้าปัดในซีรีย์ล่าสุดของ Overseas Self-winding นำเสนอมาในสีน้ำเงินปัดลายรัศมี และเคลือบชั้นผิวด้วยแลคเกอร์เพื่อเพิ่มความเงางามและทนทาน หรือหน้าปัดสีชมพูระเรื่อพร้อมงานฟินิชิงแบบเดียวกัน ซึ่งจัดมาเป็นทางเลือกเฉพาะรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลขอบเพชร แต่ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ใช้หลักชั่วโมงทรงแท่งและเข็มทรงดาบ ในวัสดุทองชมพู 18K หรือทองขาว 18K สำหรับรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล แต้มด้วยสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) เพื่ออำนวยประโยชน์สำหรับการดูเวลาในที่มืด ส่วนฟังก์ชันการแสดงเวลาเป็นแบบ 3 เข็ม คลาสสิก โดยมีวันที่กำกับผ่านช่องหน้าต่างที่ติดตั้งอยู่บริเวณตำแหน่ง 3 นาฬิกา
และเมื่อมีการปรับขนาดให้เล็กลงเพื่อการสมใส่แบบยูนิเซ็กซ์ ทุกรุ่นจึงมาพร้อมการทำงานอันทรงพลังของกลไกออโตเมติก Cal.1088/1 ซึ่งพัฒนามาจาก Cal.1088 อันเป็นชุดจักรกลที่ปรากฏอยู่ในคอลเลกชั่น Égérie (เอเฌรี) โดยปรับขนาดให้เล็กลง เพื่อให้สามารถบรรจุได้พอดีกับเรือนเวลารุ่นนี้ กลไกชุดนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 20.8 มิลลิเมตร ประกอบด้วยชิ้นส่วนทั้งสิ้น 144 ชิ้น ทับทิมกันสึก 26 เม็ด เดินกำลังด้วยความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง และมีความสามารถในการสำรองพลังงานอยู่ที่ 40 ชั่วโมง ด้วยการเหวี่ยงขึ้นลานของแผ่นโรเตอร์แบบครึ่งวงกลมที่สลักเสลาเป็นสัญลักษณ์ประจำคอลเลกชั่น เพิ่มคุณค่าด้วยการผลิตขึ้นจากทอง 22K โดยสามารถชื่นชมการทำงาน และความงดงามของกลไกด้วยลายขัด ‘Côtes de Genève’ (โกตส์ เดอ เฌอแนฟ) ผ่านฝาหลังคริสตัลแซพไฟร์
นอกจากการประกอบกับสายที่ใช้วัสดุแบบเดียวกับตัวเรือนแล้ว Overseas Self-winding เวอร์ชั่นใหม่นี้ยังคงเปิดโอกาสให้จับคู่กับสายหนังลูกวัว หรือสายยางสีน้ำเงิน พร้อมตัวล็อกสายที่ผลิตจากวัสดุชนิดเดียวกับตัวเรือนมาให้เป็นทางเลือกในการมิกซ์แอนด์แมทช์อีกด้วย โดยสามารถเป๋นเจ้าของได้ในราคาตั้งแต่ 26,000-64,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 960,000 บาท จนถึง 2.4 ล้านบาท